ทำแผนฯหลานโหด ฆ่าลุงโบกปูน เผยมูลเหตุจูงใจ ทวงเงิน 3 หมื่น


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กรณีคดีหลานชายฆ่าโบกปูนลุงวัย 55 ปี ในจังหวัดสระบุรี วันนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงข่าวพร้อมนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำสารภาพ เผยมูลเหตุจูงใจมาจากปมติดค้างค่าแรงช่วยทำงานรับเหมาก่อสร้าง ช่วงหนึ่งของการทำแผนฯ ผู้สื่อข่าวก็ถามว่าอยากพูดอะไรหรือไม่ นายอาร์ม ผู้ก่อเหตุก็บอกว่าอยากบอกญาติว่าตนเองเสียใจ ไปฟังช่วงนี้

หลานชาย รับสารภาพ ก่อเหตุฆ่าโบกปูน

พบศพชายถูกฆ่าโบกปูนในห้องนอน

นายอานุภาพ กัญญาคำ วัย 29 ปี ผู้ต้องหาในคดีฆ่านายไพโรจน์ พรหมเมืองเก่า ผู้รับเหมาก่อสร้างซึ่งเป็นลุงของตนเองเสียชีวิตคาห้องนอน ก่อนโบกปูนทับเพื่ออำพรางศพ เปิดเผยขณะตำรวจภูธรภาค 1 หน่วย S.W.A.T ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี และตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี ควบคุมตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุบริเวณบ้านของนายไพโรจน์ หมู่ 9 ต.หนองปลาไหล อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี

 

โดยนายอานุภาพ ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าอยากบอกอะไรกับผู้ตาย แต่ฝากไปถึงเพียงญาติพี่น้องว่าตนเองเสียใจ และยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้เตรียมการมาก่อน

ทั้งนี้การทำแผนประกอบคำรับสารภาพวันนี้ สืบเนื่องมาจากตำรวจติดตามตัวนายอานุภาพมาสอบปากคำ เพราะมีหลักฐานเชื่อมโยงต้องสงสัยในคดี หลังการสอบสวนหลายชั่วโมง นายอานุภาพจึงยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ เพราะจำนนต่อหลักฐาน โดยบรรยากาศการทำแผน ตำรวจกั้นแผงเหล็กคัดกรอง ไม่ให้ชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุเข้ามา ขณะที่บ้านของของนายอานุภาพ ซึ่งปกติจะมีญาติของนายอานุภาพและนายไพโรจน์อยู่กันหลายคน วันนี้ถูกปิดล็อกจากด้านนอก และไม่พบว่ามีญาติมาสังเกตุการณ์แต่อย่างใด

 

พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องหาอ้างว่าปมปัญหาเริ่มจากตนเองได้ไปช่วยนายไพโรจน์ ผู้ตาย ทำงานรับเหมาก่อสร้างตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 63 – มกราคม 64 แต่นายไพโรจน์ติดค้างค่าแรงจำนวน 30,000 บาท จึงได้ทวงถามหลายครั้งเรื่อยมาจนถึงเดือนเมษายน 64 แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด จนวันที่ 18 เมษายน นายอานุภาพแต่งงาน ต้องนำโฉนดที่ดินไปจำนองเพื่อนำเงิน 4 หมื่นบาทมาใช้ในงานแต่ง เมื่อทวงถามค่าแรงจากนายไพโรจน์อีกครั้งกลับได้คำตอบว่า “ถ้าอยากได้ให้ไปฟ้องเอา” จึงรู้สึกโกรธ

วันที่ 22 เมษายน เวลา 6.30 น. นายอานุภาพจึงตัดสินใจหยิบท่อนไม้จากหน้าบ้านตนเอง ซึ่งอยู่หลังบ้านผู้ตาย แล้วเดินเข้าบ้านนายไพโรจน์ซึ่งลุกขึ้นมานั่งบนเตียง ไม่ทันได้พูดอะไร ผู้ก่อเหตุก็เงื้อไม้ฟาดที่ศีรษะและลำคอจนนายไพโรจน์ถึงแก่ความตาย ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะขี่รถจักรยานยนต์ ออกไปซื้อปูนซีเมนต์ที่ร้านวัสดุภัณฑ์ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร และนำกลับมาผสมเทลงบล็อกอำพรางศพในห้องนอนนายไพโรจน์ จากนั้นก็ทยอยเข้ามานำทรัพย์สินต่าง ๆ ไปขาย ทั้งรถยนต์ยี่ห้อนิสสันนาวาร่า สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เพื่อนำเงินมาใช้หนี้

ด้านนางวัลยา วรคณิตาจารย์ เจ้าของร้านวัสดุภัณฑ์ที่ผู้ก่อเหตุมาซื้อปูนไปอำพรางศพ ระบุว่า รู้สึกตกใจเพื่อทราบว่าผู้ก่อเหตุมาซื้อปูนจากร้านตนไปเพื่ออำพรางศพ โดยเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตนเห็นผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์คนเดียวมาที่ร้าน ซื้อปูนซีเมนต์ขนาด 40 กิโลกรัม ไป 2 ถุง ก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุก็เคยมาซื้อวัสดุก่อสร้างที่ร้านเพื่อไปทำงานรับเหมาก่อสร้างอยู่หลายครั้ง

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และลักทรัพย์ของผู้อื่น ก่อนนำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดสระบุรี

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

ขณะนี้ มีรายการกำลังถ่ายทอดสด คุณสนใจหรือไม่?

POP NEWS

POP NEWS

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ