วันที่ 9 มิ.ย. 2564 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการทยอยเรียกสอบปากคำพยานต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยมีการแยกผู้กระทำผิดเป็นกลุ่มๆ
ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำให้นายวีรพัฒน์เสียชีวิต แบ่งเป็นกลุ่มคนที่เข้าไปรุมทำร้ายประมาณ 6-7 คน และกลุ่มผู้สั่งการ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ชั้นปีที่ 2 อีกจำนวนหนึ่ง
เตรียมเผา "น้องปลื้ม" เหยื่อรุ่นพี่ทำร้าย
ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ชี้โควิด-19 คนไทยเข้มการใช้จ่าย
ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะข้อความสนทนาทางไลน์ เพื่อระบุตัวผู้กระทำความผิดให้ชัดเจน ก่อนพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา ฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายโดยเจตนา ซึ่งมีพยานที่อยู่ในเหตุการณ์กว่า 30-40 คน ที่สามารถชี้ตัวได้ว่า ใครทำอะไรในที่เกิดเหตุบ้าง
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ในวันนี้ทางตัวแทนมหาวิทยาลัยฯ จะนำ พยานหลักฐาน เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ ตอนที่กลุ่มรุ่นพี่ 5 - 6 คน พยายามนำตัวผู้เสียชีวิตออกจากอาคาร เพื่อไปส่งโรงพยาบาล ไปมอบให้กับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน รวมทั้งเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมในวันเกิดเหตุด้วย
ล่าสุด พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน ระบุว่า คดีนี้ทางเจ้าหน้าที่จะต้องรอสอบข้อเท็จจริงจากทางมหาวิทยาลัยอีกครั้ง เพราะกลุ่มที่ก่อเหตุอาจเข้าข่ายเป็นการบุกรุก และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ รวมทั้งอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบว่า ใครเป็นผู้คนลงมือก่อเหตุหรือให้การสนับสนุน ซึ่งเบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลทั้งหมดแล้ว เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด และการให้ปากคำจากรุ่นน้องในที่เกิดเหตุ
นอกจากนี้ยังได้แสดงความเสียใจกับเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมแสดงความเห็นว่าการรับน้องที่ใช้ความรุนแรงแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงรูปแบบใด โดยย้ำว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนหาข้อเท็จจริงทั้งหมด และนำตัวผู้ก่อเหตุมารับโทษต่อไป
ออกหมายเรียก”แก๊งบิ๊กไบก์”มาพบ 12 มิ.ย.นี้
เร่งชันสูตร หญิงวัย 46 ชักเกร็ง เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า เพียง 11 ชั่วโมง