จ่อออกหมายจับ 12 รุ่นพี่ ม.อุเทนฯ ทำร้ายรุ่นน้องดับ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ความคืบหน้าคดี รุ่นพี่ม.อุเทนฯ ทำรุ่นน้องเสียชีวิต พบพฤติการณ์ก่อนเสียชีวิต ไปร่วมกิจกรรมกับรุ่นพี่ ที่มหาวิทยาลัย และถูกทำร้ายจนต้องนำส่งโรงพยาบาล

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังตำรวจ สน.ปทุมวัน และกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 เข้าตรวจสอบมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย หลังประสานเข้าไปสอบปากคำและเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติมในช่วงสายวันนี้ ทันทีที่ขบวนรถตำรวจมาถึงมีเจ้าหน้าที่ รปภ. วิ่งออกมาแจ้งว่า อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าไปภายในเท่านั้น ไม่อนุญาตกลุ่มสื่อมวลชนเข้าไป โดยใช้เวลาในการเข้าไปตรวจสอบร่วม 2 ชั่วโมง ก่อนออกมาให้ข้อมูล

ตร.เผย อุเทนฯเตรียมมอบหลักฐานคดีรับน้องโหด

แจ้งความรุ่นพี่ สั่งซ่อม ปี 1 ช็อกดับ เหตุมาสาย มหาวิทยาลัยอ้างเป็นลมเอง ตร.ส่งชันสูตร

 

 

 

พล.ต.ต.ปิยะ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ตำรวจได้พยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี คือ วงจรปิด ในพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุ ภาพรถของรุ่นพี่ที่ขี่เข้ามาในวันเกิดเหตุ รายชื่อนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรม และสภาพแวดล้อมจุดเกิดเหตุ รวมถึงการสอบปากคำบุคคลากรภายในมหาวิทยาลัยฯ ซึ่งตำรวจเชื่อว่าพยานหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับผู้ก่อเหตุรวม 12 คนโดยพฤติการณ์เบื้องต้นพบว่า รุ่นพี่ปี 3 ขึ้นไป เรียกรุ่นน้องปี 1 ที่กำลังจะขึ้นปี 2 มาประชุมเพื่อเตรียมการรับน้องที่จะเข้าปี 1 และได้ลงโทษให้รุ่นน้องที่นั่งเรียงกัน โดยหมุนเวียนใช้เท้าเตะ ซึ่งมีรุ่นพี่ผู้หญิงอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย แต่ยังไม่ชัดเจนว่าลงมือกระทำหรือไม่

ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์พรชัย อัจฉริยเมธากร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ยืนยันว่า ในวันเกิดเหตุกลุ่มนักศึกษาราว 30-40 คน บุกรุกเข้ามาในมหาวิทยาลัยเพื่อจัดกิจกรรมกันเองโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ตามประกาศในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งมหาวิทยาลัยตั้งกรรมการสอบสวนไปแล้ว ซึ่งการที่กลุ่มนักศึกษา 12 คน รับสารภาพ ตัวเองจะเร่งทำข้อมูลสรุปส่งให้อธิการบดีพิจารณาลงโทษ ซึ่งโทษสูงสุดคือไล่ออก

ผศ.พรชัย รองอธิการบดีฯ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยเห็นเหตุการณ์ แต่ไม่ได้ทราบเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งทางมหาวิทยาลัยอยู่ระหว่างการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ว่าปล่อยปละละเลยหรือไม่ เพราะขณะเกิดเหตุ กลุ่มนักศึกษาไม่ได้ประสานรถพยาบาลเข้ามา แต่นำผู้บาดเจ็บขึ้นรถส่วนตัวออกไปนอกมหาวิทยาลัย ก่อนที่จะมีอาจารย์ในมหาวิทยาลัยแจ้งเรื่อง และทราบเหตุการณืภายหลัง พร้อมยืนยันว่าที่ผ่านมามหาวิทยาลัยไม่มีนโยบายให้ทำกิจกรรมรับน้องในช่วงนี้ เนื่องจากสถานการณ์โควิดและอยู่ในช่วงที่มหาวิทยาลัยออกระเบียบให้เรียนออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งจากการตรวจสอบพฤติกรรมของรุ่นพี่ทั้ง 12 คน ไม่เคยพบว่ามีพฤติกรรมรุนแรงมาก่อนหน้านี้

ขณะที่รองศาสตราจารย์ ดร.ยุกติ มุกดาวิจิตร อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นอาจารย์ที่เคยออกแสดงความคิดเห็นไม่เห็นด้วยกับระบบรับน้องแบบโซตัสมาตลอด ระบุว่า ระบบโซตัส เป็นระบบการปกครองแบบอุปถัมภ์รูปแบบหนึ่ง ที่รุ่นน้องจะเคารพรุ่นพี่ แต่เป็นการเคารพที่ไม่คำนึงถึงความเป็นคน และระบบนี้ มีแนวทางความคิดมาจากการใช้ความรุนแรง และแนวทางที่มนุษย์ปกติไม่ใช้กัน เพราะจะมีเรื่องของความลามก ความรุนแรง เพื่อสั่งสอนให้เกิดความหลาบจำ หรือ เรียกว่า ใช้ความรุนแรงเป็นเครื่องมือในการให้การศึกษา อย่างสำนวนที่ว่า "รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี”

รองศาสตราจารย์ยุกติ ยังบอกด้วยว่า ที่ผ่านมาประเทศไทย แก้ปัญหาผิดที่ โดยเทียบกับการบังคับสวมเสื้อ หรือเครื่องแบบการศึกษา ที่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา หรือแม้แต่การเคารพธงชาติ ก็ไม่ได้ช่วยให้นักเรียนไม่ฆ่ากันในสถานศึกษาจากการรับน้อง

สำหรับแนวทางแก้ไขระยะยาว มองว่า ต้องได้รับความร่วมมือจากหลายส่วน เช่น ต้องมีการลงโทษอย่างเด็ดขาดตามกฎหมายและไม่ใช้ความรุนแรง เพราะปัจจุบันเรายังเห็นผู้บริหารประเทศยังใช้ความรุนแรงอยู่ ซึ่งการแก้ไขอย่างเร่งด่วน อาจต้องประสานกระทรวงศึกษาธิการ ให้ออกมาตรการ ไม่ส่งเสริมระบบรับน้องแบบโซตัส รวมถึงสอบสวนผู้บริหารของสถาบันนั้นๆ ว่าปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงได้อย่างไร โดยผู้ใหญ่จะต้องลงมาดูอย่างใกล้ชิดและจริงจัง ส่วนสถาบันการศึกษาก็ต้องให้ความรู้เรื่องนี้ในการเรียนการสอนด้วย

 

 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ