จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก รายหนึ่งได้โพสต์ขอความว่า น้องสาว ซึ่งทำงานเป็นพนักงานราชการกระทรวงศึกษา ในกรุงเทพมหานคร เสียชีวิต หลังเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เมื่อวันที่ 26 พ.ค 64 ซึ่งหลังจากฉีด ก็มีอาการแย่ลงต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ ปวดเมื่อย เพลีย มีไข้ ไม่มีแรง เรื่อยมา จนถึงวันที่ 8 มิ.ย 64 น้องอาการไม่ดีขึ้น และแย่ลงกว่าเดิม น้องมีอาการช็อค หายใจไม่ออก หัวใจหยุดเต้นและหมดสติไป ก่อนจะเสียเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ทนายความอายุ 60 ปีเสียชีวิต ภรรยา เชื่อเกิดจากฉีดวัคซีนโควิด ส่งศพชันสูตรหาสาเหตุ
เร่งชันสูตร หญิงวัย 46 ชักเกร็ง เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า เพียง 11 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่ ที่วัดโพธิ์เผือก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีครอบครัว ญาติๆมารอรับร่างผู้เสียชีวิต ที่จะนำกลับมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนา นางอนันต์ กาญจนลักษณ์ แม่ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ลูกสาว มีโรคประจำตัว คือภูมิแพ้ กับไทรอยด์ ถึงจะมีโรคประจำตัว แต่ก็แข็งแรง ไม่ได้ป่วยกระเสาะกระแสะ
จนกระทั่งทาง กระทรวงศึกษาธิการ ที่ลูกสาวทำงานอยู่ให้ลงทะเบียนฉีดวัคซีน ซึ่งลูกสาวก็มาบ่นให้ฟังว่าไม่อยากฉีด เพราะกลัวแต่ก็ต้องฉีด จึงได้ตัดสินใจ ลงทะเบียน ฉีดวัคซีน และได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกเมื่อวันที่ 26 พ.ค. กระทั่งกลับมาที่บ้าน ก็เริ่มบ่นว่ามีอาการปวดเมื่อยและมีไข้และมีอาการหนักเรื่อยมา จนวันที่ 8 มิ.ย. อาการไม่ดีขึ้น นอนซม จึงกลับหาหมอที่โรงพยาบาล ราชธานี หมอก็ได้ทำการฉีดยาและให้ยากลับมาทาน ซึ่งกลับมาได้ไม่เพียง 1 ชั่วโมงลูกสาวก็มีอาการชักเกร็งหัวใจหยุดเต้น จึงต้องช่วยกันปั๊มหัวใจและเรียกรถฉุกเฉินให้มารับตัวลูกสาวส่ง รพ. อีกครั้ง คราวนี้ ถูกนำตัวเข้าห้อง CCU อาการโคม่า
กระทั่ง คืนวันที่ 10 มิ.ย.เวลา 23.30 น. ลูกสาวได้เสียชีวิตลง แพทย์ระบุว่า หัวใจเต้นผิดจังหวะ เส้นเลือดหัวใจตายเฉียบพลัน แต่ญาติ ยังคงติดใจในการเสียชีวิต เพราะเชื่อว่น่าจะ เป็นผลข้างเคียงในจากการฉีดวัคซีน
