จากกรณี ดราม่าในโซเชียล แม่ค้ารายน้ำส้ม อ้างว่า ถูกเจ้าหน้าที่สรรพาสามิต ล่อซื้อน้ำส้ม และจบด้วยการถูกปรับเป็นเงิน 12,000 บาท จนนำมาสู่ กรมสรรพสามิต ชี้แจงว่า ไม่มีเจตนา เพียงแต่เป็นการตักเตือนใหเข้ามาสู่ระบบภาษีเท่านั้น ล่าสุด ทางเจ้าหน้าสรรพาสามิตที่เกี่ยวข้อง 6 คน ถูกตั้งกรรมการสอบสวน และสั่งย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นก่อน เพื่อตรวจสอบความจริงให้ชัดเจน ซึ่งต้องยอมรับว่า เรื่องนี้มีผลกับความรู้สึกของ พ่อค้า แม่ค้า
แม่ค้า เผยประสบการณ์ถูกล่อซื้อน้ำส้ม 500 ขวด
แม่ค้าสุดดีใจ รับออเดอร์น้ำส้ม 500 ขวด กลับโดนล่อซื้อ ถูกจับปรับ 12,000 บาท
ทีมข่าวจึงลงพื้นที่ไปสอบถาม ซึ่งก็พบว่า หลายร้านที่เห็นข่าว ก็อยากให้ เจ้าหน้าที่บอกให้ชัดว่า ขายน้ำส้มแบบไหนผิดกฎหมาย
ทีมข่าวพีพีทีวี ลงพื้นที่ตลาดไทยภัทร สุทธิสาร เพื่อสำรวจความเห็น พ่อค้า แม่ค้า ถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดย นายมิตร มังคละโสภณ เจ้าของร้านผลไม้แม่ทองหยด บอกว่า ผู้ค้าที่แผงหาเช้ากินค่ำ ไม่มีทางรู้ข้อกฎหมายเหล่านี้ ว่าการค้าขายของตนในปัจจุบันเข้าข่ายต้องเสียภาษีหรือไม่ จึงอยากให้ กรมสรรพสามิตประชาสัมพันธ์ให้แน่ชัดเลยว่าการค้าขายแบบไหน ถึงจะเข้าขั้นต้องเสียภาษีของกรมฯ เนื่องจากผู้ค้ารายย่อยทั่วไปไม่มีใครอยากโดนจับ และโดนปรับเงิน โดยเฉพาะในช่วงสภาพเศรษฐกิจแย่แบบนี้
แต่ส่วนตัวไม่กังวล เพราะ ร้านของตน วางขายน้ำส้มหน้าร้านเพียงแค่ 4-5 ขวดเท่านั้น ไม่ได้ทำในปริมาณมาก และครั้นสดเองกับมือ และไม่ใส่น้ำตาลเกินปริมาณ
นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เผยว่า หากเป็นกรณีแม่ค้ารายย่อยตามตลาดนัด ขายปลีก ไม่ผิดกฎหมาย แต่กรณีที่เป็นประเด็นในโซเชียล ทางกรมฯได้รับรายงานว่า ผู้ประกอบรายดังกล่าว เข้าข่ายทำเป็นอุตสาหกรรม ขายส่งในปริมาณมาก ใช้เครื่องจักรสำหรับการผลิต ซึ่งการเข้าตรวจค้นไม่ได้เป็นการปรักปรำผู้ประกอบการ เพียงแต่แนะนำให้เข้าสู่ระบบตามกฎหมาย ซึ่งหาก เข้าข่ายเป็น ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ต้องดำเนินการ จดทะเบียนเสียภาษีกับกรมสรรพสามิต และขอใบรับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เพื่อให้สินค้าได้มาตรฐาน
สรรพสามิต แจง "ล่อซื้อน้ำส้มแต่ไม่ได้ปรับ"
สำหรับ ความผิดที่อาจเข้าข่าย การกระทำของแม่ค้าน้ำส้มรายนี้ โฆษกกรมสรรพสามิต ชี้แจงว่า ผิดตาม พรบ.ภาษีสรรพสามิต 2560 ในมาตรา 203 (1) มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษี หรือ เสียภาษีไม่ครบถ้วน และ มาตรา 204 (1) ขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษี หรือ เสียภาษีไม่ครบถ้วน ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือ ปรับตั้งแต่ห้าถึงสิบเท่าของค่าภาษีที่ต้องเสียหรือเสียไม่ครบถ้วน แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 800 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ซึ่ง ทาง โฆษกกรมสรรพสามิต ยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการสั่งปรับ แต่เป็นการแจ้งข้อมูลเพื่อทราบให้เข้าระบบภาษี
แต่อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดขึ้น นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ย้ำว่า ไม่อยากให้ แม่ค้าน้ำส้มรายย่อยเป็นกังวล เพราะกรมฯ ไม่มีนโยบายในการตรวจสอบแม่ค้ารายย่อย ประกอบกับช่วงนี้โควิด เข้าใจผู้ประกอบการ และล่าสุด นายลวรณ ได้เซ็นคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ 5 นาย จากสรรพสามิตเขต 5 และคนรถ 1 นาย รวมทั้งหมดเป็น 6 นาย มาปฏิบัติงานที่สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 10 พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อจริงเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าว คาดทราบผลภายใน 15 วัน เพื่อให้เกิดความชัดเจนแก่สังคม
เมื่อย้อนไปดู หน้าร้านจากที่ ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าดังกล่าววานนี้ พบว่า ที่บริเวณหน้าร้านป้ายติดเอาไว้ว่า “จำหน่ายปลีก-ส่ง และรับบรรจุทำแบรนด์ของตัวเอง” เมื่อตรวจสอบพบเพจเฟซบุ๊กพบว่า ร้านค้าน้ำส้มแห่งนี้ได้มีการโพสต์รับออเดอร์บ่อยครั้ง โดยจัดส่งทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งต่างจังหวัด โดยจัดส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ นอกจากนี้ลูกค้าสามารถรับแบบไม่ติดสติ๊กเกอร์ โดยลูกค้าเอาไปติดเป็นแบรนด์ของตัวเองได้
คลัสเตอร์งานบวช ลาม 2 โรงเรียน เด็กติดเชื้อ + 9 ตรวจหาโควิดวุ่น กลุ่ม นร.ประถม
สุดทึ่ง! ยึดอาชีพเสี่ยงตาย เลี้ยงต่อหัวเสือขาย หารายได้เสริม สู้โควิด
