ผู้เสียชีวิตคือ นายกฤษดา มลยง หรือ หมอก อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาคดี พ.ร.บ.อาวุธปืน ได้เสียชีวิตอย่างปริศนาภายในเรือนจำ จ.ตรัง เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศเมื่อคืน ญาตินำร่างผู้เสียชีวิตกลับมาประกอบพิธีทางศาสนา หลังจากนำร่างส่งชันสูตร ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ในงานมีญาติพี่น้อง ชาวบ้าน มาแสดงความเสียใจกับครอบครัว ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ
ด่วน! ประกาศกทม.เปิด 8 สถานที่ กิจกรรม ร้านสะดวกซื้อ 24 ชม.จัดเลี้ยงสังสรรค์ สูงสุด 500 คน
มท. แจงปม เอกชนขอสนับสนุนวัคซีน ย้ำแค่สำรวจข้อมูลยังไม่จัดสรร
น้าชายผู้เสียชีวิต ร้องเรียนกับสื่อและขอความเป็นธรรม เพราะครอบครัวยังคลางแคลงใจสาเหตุเสียชีวิตภายในเรือนจำ โดยก่อนหน้านี้ได้รับคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ว่าผู้ตายมีอาการ อาเจียน ชักเกร็ง ก่อนช็อกหมดสติ ขณะนั่งอยู่ใต้อาคารสูทกรรม หลังกินข้าวเที่ยง เวลา 11.45 น. ก่อนจะถูกหามมาที่แดนพยาบาล โดยญาติๆรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาลตรัง แต่นายกฤษดา ได้เสียชีวิตแล้ว ร่างถูกเก็บในห้องแช่แข็ง
แพทย์โรงพยาบาลตรัง ชี้แจงว่านายกฤษดาเสียชีวิตมาจากเรือนจำแล้ว จึงสงสัยว่าอะไรคือสาเหตุของการเสียชีวิต ก่อนจะนำร่างส่งไปผ่าชันสูตรที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ แพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิต และ ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย จึงอยากเรียกร้องให้กรมราชทัณฑ์ตรวจสอบ และออกมาชี้แจง
อีกประเด็นที่น้าชายผู้ตายยังติดใจ คือ เรื่องการจับกุมผู้ตาย ย้ำว่าที่ผ่านมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมมาตลอดเกี่ยวกับคดีนี้ เพราะครอบครัวเชื่อว่าผู้ตายไม่ผิด น้าชายผู้ตายเล่าว่า ผู้ตายถูกจับกุมเมื่อปี 2561 ในขณะที่ผู้ตายอายุ 19 ปี ในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน เอ็ม 16
เขาบอกอ้างว่าในสำนวนการจับกุม มีนาย เจ (นามสมมุติ) ได้โทรหาผู้ตาย ขอช่วยให้ไปซื้อนมผงเป็นเพื่อน ผู้ตายจึงนั่งรถไปเป็นเพื่อนเพราะทั้ง 2 เป็นเพื่อนสนิท หลังจากนั้นนายเจ ได้ติดต่อกับนายสอง ซึ่งถูกจับในคดียาเสพติด ถูกกักตัวอยู่ในเซฟเฮ้าส์ของตำรวจ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีของผู้ตาย ได้โทรศัพท์มาหานายเจ ให้ช่วยไปเอาเหล็กให้หน่อย พิงอยู่ใต้เสาไฟฟ้า ในซอยเทศบาล ติดกับคลองหินขวาง ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน ทำให้นายเจ และผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ไปกัน 2 คน เมื่อไปถึงก็พบวัตถุห่ออยู่ในถุงดำ นายเจจึงหยิบและวางไว้บนตักผู้ตาย ก่อนจะขับรถออกไป แต่หลังจากนั้นมีตำรวจซุ่มอยู่เข้ามาจับกุมทันที ทำให้ผู้ตายหายตัวไป 2 วัน ก่อนที่พนักงานสอบสวน สภ.หาดสำราญ จะดำเนินคดีในข้อหา พ.ร.บ.อาวุธปืน
น้าชายผู้ตายอ้างว่า ปืนกระบอกนี้เป็นปืนตราโล่ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมั่นใจว่าปืนไม่ใช่ของผู้ตายแน่นอน จึงร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้นำปืนมาตรวจสอบ ว่าอาวุธปืนราชการดังกล่าวเบิกมาจากไหน ใครเป็นคนเบิก หรือมีการแจ้งหายหรือไม่ แต่เรื่องกลับเงียบหายไป
คดีนี้ศาลตัดสินจำคุก 8 ปี 10 เดือน และศาลอุทธรณ์ได้ลดโทษเหลือ 1 ปี 11 เดือน โดยผู้ตายจำคุกไปได้ 4 เดือนทางเรือนจำเห็นว่ามีคุณสมบัติในการพักโทษ ซึ่งเหลืออีก 40 วันจะได้รับการปล่อยตัว และ 2 วันหลังจากที่ทำเรื่องพักโทษ เขากลับเสียชีวิตในเรือนจำ จึงเป็นประเด็นที่ทำให้ญาติสงสัย
ช้างป่าบุกพังครัวชาวบ้าน คาดได้กลิ่นอาหารต้องการแร่ธาตุจากความเค็ม
