แม่น้องพอส เศร้าสูญเสียลูกชายคนเล็ก พร้อมเผยการเป็นกู้ภัยคือความฝันของน้อง
แห่อาลัย "พอส" หนุ่มกู้ภัยเสียชีวิต เหตุโรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้
เตือนอย่าโอนไว บัญชีบริจาค"น้องพอส"ของปลอม
ผู้ใช้เฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า สายน้ำผึ้ง ชะนะแสวง ซึ่งเป็นแม่ของนายกรสิทธิ์ หรือ น้องพอส อาสานักดับเพลิงที่เสียชีวิตจากเหตุการโรงงานระเบิดย่านกิ่งแก้ว ได้โพสต์อาลัยถึงการเสียชีวิตของลูกชาย แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อเหมือนกันโพสต์ขอความช่วยเหลือ พร้อมแนบเลขบัญชีเพื่อให้คนใจบุญโอนเงินบริจาค ซึ่งภายหลังจากการตรวจสอบพบว่าเฟซบุ๊กที่ขอรับบริจาคดังกล่าวเป็นของปลอม
หลังญาติผู้เสียชีวิตได้ออกมาโพสต์ข้อความเตือนภัยถูกมิจฉาชีพฉวยโอกาส ปลอมเฟซบุ๊กแม่เพื่อเปิดรับบริจาคเงิน โดยอ้างว่าจะนำเงินเพื่อไปไว้ใช้จ่ายในการจัดงานศพซึ่งไม่เป็นความจริง
ทีมข่าว PPTV ได้สอบถามกับ นายพงศพัศ กตคุณวิสิทธิ์ หัวหน้าหน่วยสมเด็จเจ้าพระยาธน 28 ยืนยันว่า เฟซบุ๊กแม่น้องพอสที่เปิดรับบริจาคเป็นของปลอม เนื่องจากทางครอบครัวได้มอบอำนาจให้กับอาสาสมัครฯหน่วยสมเด็จเจ้าพระยา ธน 28-18 ฐานเทคโน เป็นผู้จัดการรับเงินบริจาคทั้งหมด
ขณะนี้บัญชีที่เปิดรับบริจาคของจริง มีเพียง 2 บัญชีเท่านั้น คือบัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี พงศพัศ กตคุณวิสิทธิ์ และธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี นายสุพจน์ ชมสินทรัพย์ หลังจากนี้เงินที่ได้รับบริจาคจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ จะมอบให้กับแม่ของน้องพอส และ เป็นทุนการศึกษาของเพชรน้องชายพอส ยืนยันว่าเงินที่ได้รับบริจาคทั้งหมดจะถูกจัดสรรอย่างถูกต้องชัดเจนและสามารถตรวจสอบ
สำหรับบัญชีที่แก๊งมิจฉาชีพ ปลอมขึ้นมาหลอกลวงประชาชน จากการตรวจสอบทีมข่าวพบว่ามี 3 บัญชี โดยชื่อปลายทางรับเงินคือพัทธวีย์ มณีรัตน์บวรชัย สมพร บุญเสริม และ จุฑารัตน์ ซึ่งเมื่อนำชื่อไปค้นหาพบว่า ชื่อบัญชี พัทธวีย์ และ สมพร เคยถูกนำมาโพสต์เตือนภัยในโลกออนไลน์เมื่อช่วงปี 63 ว่ามีการหลอกทั้งโทรศัพท์มือถือ รถจักรยานยนต์ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ /อะไหล่รถยนต์ โดยมีพฤติการณ์ให้ลูกค้าโอนเงินสั่งซื้อของแต่ไม่ส่งของให้จริงจนมีผู้เสียหายหลายราย
ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เตือนว่าอย่าหลงเชื่อบุคคลแอบอ้างดังกล่าว หากประสงค์จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าวในทุกกรณี ขอให้ตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อน โดยเฉพาะข้อมูลการขอรับการบริจาคผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพราะอาจมีการแอบอ้างโดยมิจฉาชีพได้ ถ้าเป็นไปได้ขอให้ตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง หรือจากแหล่งข่าวที่มีความน่าเชื่อถือ
สำหรับผู้ที่กระทำความผิดในการแอบอ้างขอรับบริจาคผ่านสื่อสังคมออนไลน์ จะมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ