"สันธนะ" โวย อ้างตร.กลั่นแกล้ง ออกหมายจับซ่องโจร อุ้มรีดไต้หวัน อ้างยังกักตัวป่วยหนักโควิด ขู่ฟ้องกลับ "บิ๊กตร."


โดย PPTV Online

เผยแพร่




"สันธนะ ประยูรรัตน์" พร้อมพวกเข้ามอบตัว คดีอุ้มรีดค่า่ไถ่นักธุรกิจไต้หวัน โวยตำรวจแกล้ง ออกหมายจับ ทั้งนี้ตัวเองยังต้องกักตัวป่วยโควิด-19 ลั่นฟ้องกลับ

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 3 สิงหาคม 2564 ที่ สน.ทองหล่อ นายสันธนะ ประยูรรัตน์  อดีตรองผู้กำกับการตำรวจสันติบาล ผู้กว้างขวางในแวดวงธุรกิจ และพวก พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อมอบตัว หลังถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับ้เลขที่ 362/2564 ในคดี "อุ้มรีดค่าไถ่ชาวไต้หวัน" ในความผิดฐาน "ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร ข่มขืนใจ"  จากกรณีถูกกล่าวหาอุ้มนักธุรกิจชาวไต้หวันรีดค่าไถ่ 90 ล้านบาท บริเวณคอนโดมิเนียม ย่าน สน.ทองหล่อ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ตร. มอบตัวเอี่ยวคดีรีดไถ่นักธุรกิจ 93 ล้าน

"สันธนะ ประยูรรัตน์" ติดโควิด อาการทรุดหนัก รักษาตัว 13 คืน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสวมชุด PPE มารับตัวเพื่อไปสอบปากคำ เนื่องจากนายสันธนะ แจ้งว่าตนเพิ่งติดเชื้อโควิด-19 รักษาหายออกจากโรงพยาบาลและอยู่ในช่วงกักตัวตามคำสั่งแพทย์ สำหรับคดีนี้มีการแจ้งความและดำเนินการจับกุมเมื่อเดือนมิถุนายน ได้ผู้ต้องหาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งตำรวจ โดยที่ผ่านมาศาลได้ออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีไปแล้วทั้งหมด 15 คน ทั้งนี้จากการสืบสวนขยายผลทราบว่า มีนายสันธนะ เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และปรากฎตัวในจุดเกิดเหตุ  

นายสันธนะ ระบุว่า วันนี้ตนเข้ามามอบตัว หลังทราบว่าตำรวจสน.ทองหล่อ ได้ขอให้ศาลอนุมัติออกหมายจับ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา มองว่ากระบวนการต่างๆที่เกิดขึ้น เป็นการกลั่นแกล้ง เนื่องจากว่า ตนเพิ่งหายจาก โควิด-19 และอยู่ระหว่างกระบวนการกักตัวอีก 14 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันศุกร์นี้ (6 ส.ค.64) แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่ รอ และพยายามยัดเยียดข้อหาให้กับตน

นายสันธนะ ยอมรับว่า รู้จักกับกลุ่มชาวต่างชาติทั้งหมดจริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการกระทำผิดในครั้งนี้แต่อย่างใด จึงอยาก ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยพิจารณา ว่าการกระทำที่เกิดขึ้น เหมาะสมหรือไม่  

นายสันธนะ กล่าวทั้งน้ำตาและท่าทีคล้ายคนเหนื่อยหอบตลอดเวลาก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน ว่า ที่เดินทางมาวันนี้เพราะทางพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้ไปยื่นขออนุมัติหมายจับศาล ในคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ ช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งก็ตั้ง 4 เดือนแล้ว และมีการจับกุมผู้ต้องหาต่างชาติ รวมถึงผู้ต้องหาอื่นๆ อีกหลายคนเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา และตนเคยแถลงข้อเท็จจริงไปแล้วว่า รู้จักกับชาวต่างชาติเหล่านั้นแต่ว่าไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องของคดี จนคดีนี้สำนวนการสอบสวนจะครบฝากขังใน

"วันศุกร์ที่ 6 ส.ค.นี้ พนักงานสอบสวนจะต้องนำสำนวนส่งอัยการ ส่วนผมเองก็กำลังพักรักษาตัวเกี่ยวกับการติดโรคโควิด-19 มีใบเเพทย์ยืนยัน ซึ่่งก็ยังอยู่ในระหว่างกักตัวจะครบกำหนดในวันศุกร์ที่ 6 ส.ค.นี้เช่นกัน คดีเกิดมา 4 เดือนแล้ว อีก 4 วันพนักงานสอบสวนที่โรงพักนี้ ก็กลั่นแกล้งตนหรือไม่ ขอหมายจับยัดข้อหาตนให้อยู่ในสำนวนคดีเดียวกัน เรื่องนี้ตนคิดว่าจะต่อสู้อย่างถึงที่สุด"

นายสันธนะ กล่าวว่า ทั้งเจ็บใจและทรมานกายหลังต้องต่อสู้จนตัวเองรอดจากโรคโควิด ขอเรียนท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า ตนก็เป็นประชาชนคนหนึ่งในประเทศนี้ ท่านต้องรับผิดชอบกับการทำหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ทั้ง 2 คน ทราบดี เมื่อคืนนี้พอตนรู้ก็รีบโทรศัพท์หาก็ไม่มีใครรับสาย จึงฝากท่านนายเวรและคนใกล้ชิดไปว่า พวกท่านทราบข้อเท็จจริงแต่เเรกกันแล้วและเคยไปพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวแล้ว ทำไมพวกท่านยังอยากจะมาเสี่ยงกับตน ก็ไม่เป็นไรตนพร้อมสู้ และจะขอวอนให้สังคม นักสิทธิมนุษยชน ผู้รู้ทางกฎหมาย ได้รับทราบว่าพวกเขาทำสิ่งใดต่อตนบ้าง

"ไม่ว่าจะต้องการเอาคืนส่วนตัวหรือมีผู้หลักผู้ใหญ่บางคนไม่พอใจ อยากจะปิดบัญชี หรือไม่ว่าตนจะตกเป็นเป้าหมายทางการเมือง ตนก็พร้อมสู้ ขอใช้สิทธิยื่นประกันตัว ทั้งตัวเอง และอีกหลายๆ คนที่ติดตามตน ซึ่งถูกออกหมายจับในคดีนี้ด้วย โดยใช้เงินสดและหลักทรัพย์มายื่น ซึ่่งก็อยู่ในดุลยพินิจของผู้ปฏิบัติว่าจะอนุญาตหรือไม่ ตนเรียนว่าคดีนี้ ตนให้ความร่วมมือมาตลอด เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมาก็ได้ทำหนังสือมายื่นให้ ผกก.สน.ทองหล่อ ระบุชัดเจน ว่าตนป่วยโรคโควิด-19 ยังอยู่ระหว่างรักษาตัว แต่สุดท้ายก็โดนออกหมายจับถึง 4 ข้อหาเมื่อตนได้รับอิสรภาพจะดำเนินการฟ้องผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ ที่ทุจริตและประพฤติมิชอบ ด้วยการกลั่นแกล้งตนในครั้งนี้หรือไม่ " นายสันธนะ กล่าว

ทั้งนี้มูลเหตุแห่งคดีสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจกองปราบปราม ได้ร่วมกันจับกุมตัว  2 ผู้ต้องหาสัญชาติอเมริกัน และผู้ต้องหาชาวไทยอีกหลายคน ในข้อหาร่วมกันเรียกค่าไถ่, พยายามฆ่า, อั้งยี่, ซ่องโจร, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ ไม่กระทำการใดโดยใช้กำลังประทุษร้ายและมีอาวุธฯ หลัง นายเวน ยู ชุง ชาวไต้หวันซึ่่งเป็นตัวแทนนักธุรกิจจำหน่ายถุงมือยางทางการแพทย์เข้าแจ้งความกับตำรวจ ว่า ถูกอุ้มไปรีดค่าไถ่ เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ชนวนเหตุเกิดจากหนึ่งในผู้ต้องหาทำธุรกิจซื้อขายถุงมือ กับบริษัทของ นายเวน ยู ชุง แล้วเกิดความเสียหายจำนวนเงินถึง 93 ล้านบาท 

วันเกิดเหตุขณะที่ นายเวน ยู ชุง นั่งรับประทานอาหารอยู่ที่ร้านแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ ได้ถูกคนร้ายร่วมกันจับใส่กุญแจมือ พาตัวไปยังห้องพักรายวันที่อยู่ห่างไป 200 เมตร ก่อนจะใช้โทรศัพท์ติดต่อไปเรียกค่าไถ่จากนายจ้างเป็นเงิน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเรียกค่าไถ่จากญาติของ นายเวน ยู ชุง อีก 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ญาติๆ เห็นท่าไม่ดีจึงติดต่อไปขอความช่วยเหลือยังสถานทูตฯให้ประสานตำรวจ กลุ่มผู้ต้องหาจึงยอมปล่อยตัว จนนำมาสู่การออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุจำนวนหลายคน

ในส่วนของ นายสันธนะ  กับพวกรวม 7 คน ถูกออกหมายจับคดีนี้ เดินทางมา สน.ทองหล่อ ร่วมกันรวม 5 คน อีก 1 คนหลบหนีติดต่อไม่ได้ และ อีก 1 คน ป่วยอยู่ระหว่างรักษาอาการโรคโควิด-19

ประกาศกทม.ปิดที่เสี่ยง เปิด "แคมป์-ไซต์ก่อสร้าง" ได้ ชี้เหตุผลร้านอาหารในห้าง ทำไมอนุญาตแต่เดลิเวรี

โปรแกรมถ่ายทอดสดโอลิมปิก 2020 วันนี้ ประจำวันอังคารที่ 3 ส.ค. 2564

.

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ