เปิดใจนาทีระทึก ถูกจับเป็นตัวประกันบนสาย 8


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ความคืบหน้าคดีที่คนร้ายจี้รถเมล์สาย 8 ในวันนี้ทีมข่าวพีพีทีวี ได้ลงพื้นที่ ไปอู่รถเมล์สาย8 ย่านแฮปปี้แลนด์ ปรากฎว่าได้เจอทั้งคนขับและกระเป๋ารถเมล์ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ถูกคนร้ายจับเป็นตัวประกัน โดยทั้งคู่ก็เปิดใจเล่านาทีระทึก วินาทีเฉียดตายระหว่างอยู่กับคนร้ายบนรถเมล์ให้ทีมข่าวฟัง

การเปิดใจของคนขับรถเมล์สาย 8  เล่าถึงนาทีเฉียดตายที่ถูกคนร้ายจับเป็นตัวประกันโดยผู้ก่อเหตุได้ขึ้นรถจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ จากนั้นได้นั่งรถมาถึงแฮปปี้แลนด์ปลายทาง พอตะโกนบอกว่ารถหมดระยะแล้ว คนร้ายได้ชักอาวุธปืนออกมาและเดินปรี่จากท้ายรถพุ่งตรงมาจี้คนขับทันที พร้อมกับเอาด้ามปืนฟาดที่ท้ายทอย 1ครั้ง แล้วบอกว่า "ให้ไปส่งที่เดิม ที่อนุสาวรีย์เดี๋ยวนี้"  เขาจึงออกอุบายว่าต้องไปเซ็นต์ใบเวลาออกรถก่อน เพราะมันเป็นกฎไม่เช่นนั้นจะโดนปรับเงิน 

ระทึก! คนร้าย ชักปืนจี้รถเมล์สาย 8 “โชเฟอร์-กระเป๋ารถ” หนีออกมาได้

จองไฟเซอร์แบบเสียเงิน คือ เฟกนิวส์ ศบค.เตือนอย่าหลงเชื่อ ยัน ฉีดฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ขอให้รอในไตรมาส 4...

ขณะที่ฝั่งกระเป๋ารถเมล์ผู้หญิง เธอบอกว่า ตอนนั้นก็รู้สึกกลัว แต่คนร้ายก็พูดจาดี บอกว่าให้อยู่เฉยๆจะไม่ทำอะไร แถมยังอนุญาตให้คุยโทรศัพท์ได้ด้วยอยากโทรไปไหนก็เชิญ ซึ่งคนร้ายเองก็คุยโทรศัพท์กับแม่ด้วยเช่นกัน  จากการฟังคนร้ายบอกแม่ว่ากำลังก่อเหตุอยู่ แต่แม่ไม่เชื่อ คนร้ายจึงส่งโทรศัพท์ให้เธอยืนยันกับแม่ว่าเป็นเรื่องจริง  ก่อนอาศัยจังหวะที่คนร้ายเผลอปีนหนีออกทางหน้าต่าง  ทั้งนี้เธอก็ไม่ทราบว่าคนร้ายก่อเหตุทำไม และก็ไม่ได้พูดว่าต้องการเงิน แต่จับใจความได้แค่ว่า “เกลียดตำรวจ” และ “ต้องการคุยกับนักข่าว”

ย้อนไทม์ไลน์ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนเวลาประมาณ  21.00 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 1คน ใช้อาวุธปืนจี้รถเมล์สาย 8 ที่ย่านถนนแฮปปี้แลนด์

 จึงเข้าไปตรวจสอบพร้อมดึงความสนใจของคนร้าย จนสามารถช่วยเหลือตัวประกันทั้งสองคนได้สำเร็จ  จากนั้นเวลาประมาณ 23.00 น. จึงประสานชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยอรินทราช 26 เข้าระงับเหตุ และตรึงพื้นที่เอาไว้ได้  แต่ทางคนคนร้ายยังไม่ยินยอมมอบตัว บอกเพียงแค่ว่าต้องการพูดคุยกับนักข่าว ต่อมาเวลาประมาณเกือบๆ ตี1 ทางเจ้าหน้าที่ติดต่อ พ่อและแม่ของผู้ก่อเหตุให้เข้ามาช่วยเจรจา จนทำให้คนร้ายยอมมอบตัว ทางตำรวจจึงได้เข้าไปดำเนินการจับกุมตามหลักยุทธวิธีโดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง ส่วนที่ทำไปเพราะเครียดปัญหาส่วนตัว อาจจะเป็นเรื่องที่ตกงานมาหลายเดือน และจากการตรวจร่างกายก็พบสารเสพติดด้วย ตำรวจจึงแจ้งข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง , ข่มขืนใจผู้อื่นฯ , และข้อหาเสพยาเสพติด   ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ