พยานคดีรุมโทรมหญิงวัย 18 เผยแชทถูกข่มขู่ ยืนยันไม่เกี่ยวข้อง-รับเงิน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




คดีรุมโทรมหญิงอายุ 18 ปี ในพื้นที่ สภ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ ตอนนี้ จับกุมและสอบปากคำผู้ต้องหาครบทั้ง 4 คนแล้ว แต่ผู้ต้องหา และ เพื่อนผู้ต้องหา อ้างว่า ไม่ได้รุมโทรม น.ส.ตี้ แต่คดีนี้เป็นการซื้อบริการ มีการจ่ายเงินให้ เพื่อนผู้ชาย ไปจัดหาผู้หญิงมาให้ ล่าสุดกลุ่มพยาน อ้างว่า ถูกข่มขู่

เด้งผกก.สภ.แม่วงก์ นครสวรรค์ ผบช.ภ.6 "อภิชาติ ศิริสิทธิ์" สั่งสอบ ปมคดีรุมโทรมล่าช้า

โซเชียลถล่ม คดีโทรมหญิง 2 วัน จับครบแก๊ง

เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แชตข้อความที่กลุ่มผู้เกี่ยวข้องในคดีรุมโทรมหญิง ในพื้นที่ สภ.แม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ ส่งมาหา หนึ่งในพยานของคดี  ในลักษณะต่อว่า ในข้อความพยานบอกว่า ตัวเองให้การตามจริง ขณะที่คนข่มขู่ บอกให้ระวังตัว

พยานคนนี้ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการรุมโทรม และ ไม่ได้รับเงินใคร หลังก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่า จ่ายเงินให้ ชาย 2 คน ไปจัดหาผู้หญิงมาให้


 

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจาก น.ส.ตี้ ผู้เสียหายเดินเข้าไปในห้อง นายมาร์ค แฟนเขาของน.ส.ตี้ ที่เป็นคนชวน น.ส.ตี้มาที่บ้านหลังนี้ เดินเข้าไปบอกว่า จะออกไปซื้อเหล้าเพิ่ม ขณะนั้นเวลา ตี 3 ใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยออกไปพร้อมกับ เพื่อน

พยานที่ให้สัมภาษณ์ทีมข่าว ระบุว่า  นายมาร์ค โทรศัพท์หาเพื่อนผู้หญิงรุ่นน้อง 3 คน ให้มาอยู่เป็นเพื่อนน.ส.ตี้ ระหว่างที่ไปซื้อเหล้า เมื่อนายมาร์คกลับมา พบว่า ผู้ชายอยู่ในห้องเกือบหมด เมื่อพยายามเคาะห้อง นายโอม หนึ่งในผู้ต้องหาเดินมาเปิดประตู กลุ่มพยานมองเข้าไป เห็นว่า นายพี ผู้ต้องหาอีกคน กำลังข่มขืน น.ส.ตี้

ส่วนชายอีกคน ที่ถูกโจมตีว่าเป็นคนพา น.ส.ตี้ ไปให้กลุ่มผู้ต้องหารุมโทรม คือ นายเวฟ โดยก่อนหน้านี้มีข้อมูลว่า นายเวฟและนายมาร์ครับเงินจากนายป้าย ผู้ต้องหา 1,000 บาท ไปจัดหาผู้หญิงมา ก่อนจะพา น.ส.ตี้ มาที่บ้าน

ทีมข่าวได้รับคลิปเสียงจากเพื่อนของน.ส.ตี้ ผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเสียงนายเวฟ ยอมรับว่า รู้เห็นเหตุการณ์ แต่ไม่ช่วยน.ส.ตี้ ในคลิป นายเวฟหัวเราะ พร้อมบอกว่า เคยแอบชอบน.ส.ตี้ แต่น.ส.ตี้ปฎิเสธ ครั้งนี้จึงไม่อยากช่วย

ทั้งนี้ทีมข่าว ได้พูดคุยกับ นายเวฟ ยอมรับว่า เคยแอบชอบน.ส.ตี้ แต่ไม่มีเหตุผลที่ต้องแก้แค้น

นอกจากนี้ยังมีแชทหลักฐานที่เป็นข้อความที่นายป้าย หนึ่งในผู้ต้องหาที่อ้างว่าผู้เสียหายยินยอม เพราะเป็นการซื้อบริการ ส่งมาหาเพื่อนผู้เสียหาย ยืนยันว่าไม่ผิด และไม่รู้สึกสลดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บอกว่าจะไม่ไปเจอที่ชั้นศาล เพราะไม่รู้จะแก้บนอะไร

สำหรับความคืบหน้าของคดี พันตำรวจเอกลือชัย แตงร่ม ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยว่าตอนนี้แจ้งข้อกล่าวหาเดิม คือร่วมกันกระทำชำเรา โดยมีลักษณะโทรมหญิงไว้ก่อน ยอมรับว่ามีเบาะแสเรื่องซื้อขายบริการ อยู่ระหว่างพิจารณาสอบสวน กำหนดกรอบเวลาไม่เกิน 30 วัน เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวกับเยาวชน    

  

ทีมข่าว PPTV ประสานพูดคุยกับนายจะเด็ด เชาว์วิไล ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง เปิดเผยว่าตั้งแต่ทำคดีข่มขืนมา ผู้ต้องหามักอ้างว่าเหยื่อยินยอมตามปกติ เพื่อลดความแรงของคดี โดยคดีข่มขืนก็มีโทษจำคุก 4-20 ปี ปรับ 80,000-100,000 บาทอยู่แล้ว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 แต่คดีนี้เป็นความผิดฐานร่วมกันกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย มีโทษจำคุก 15-20 ปี ปรับ 300,000-400,000 บาท หรือจำคุกตลอดชีวิต แต่หากคดีพลิกเป็นซื้อบริการจะเข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์ ในฐานะผู้ใช้บริการ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551  ซึ่งมีโทษเบากว่า

 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ