บ้านห้วยฝักดาบ หมู่ 16 ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาและล้อมรอบด้วยป่าไม้ ห่างไกลจากตัวเมือง บ้านเรือนที่ตั้งอยู่เป็นป่ารก ใกล้ตัวบ้านน้องจีน่าเอง ก็ยังมีแปลงข้าวโพดสูงอยู่ด้วย ถัดจากหมู่บ้านก็เป็นชายป่า
แต่ด้วยอายุของ “น้องจีน่า” เพียง 1 ขวบ 11 เดือน คาดว่า หากเดินพลัดหลงก็ไม่น่าจะไปไกลจากตัวบ้านมากนัก และจุดที่ชาวบ้านพบเด็กเป็นจุดสุดท้าย ก็เป็นบริเวณถนนที่เยื้องจากตัวบ้านของเด็กไปไม่กี่เมตรเท่านั้น
ระดมกำลังค้นหาเด็กหญิงวัย 1 ขวบหายจากบ้าน
ระดมคน-สุนัขดมกลิ่น-โดรนปูพรมหาน้องจีน่า
ลักษณะของถนน จุดสุดท้ายที่มีคนเห็น “น้องจีน่า” เดินเล่นอยู่ จากภาพจะเห็นว่า เส้นทางเป็นดินลูกรัง บางจุดเป็นหลุมบ่อ และยังเป็นทางขึ้นลงเขา ทำให้รถที่วิ่งผ่านไปมาตรงจุดนี้ จึงไม่น่าจะใช้ความเร็วได้ ทำให้ประเด็นเรื่องของอุบัติเหตุ ที่มีการสันนิษฐานว่า “น้องจีน่า” อาจถูกรถเฉี่ยวชนแล้วถูกนำร่างไปทิ้งอำพราง จึงเป็นไปได้ยาก
ที่สำคัญการเดินทางเข้ามาหมู่บ้านค่อนข้างลำบาก ใช้เวลาเดินทางจากตัวอำเภอแม่แตง เข้ามาเป็นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ถนนค่อนข้างแคบ คดโค้ง ต้องใช้เวลาเดินทางกว่า 30 ถึง 40 นาที ดังนั้นคนที่จะเข้ามาในหมู่บ้านก็จะมีแค่คนในพื้นที่ และรถเร่เข้ามาขายของ
ทำให้ประเด็นที่ตำรวจดูจะให้น้ำหนักมากที่สุด คือ ถูกลักพาตัว สาเหตุที่ตำรวจให้น้ำหนักกับประเด็นนี้ เป็นเพราะตลอด 2 วันที่ของการค้นหาตัว “น้องจีน่า” ไม่พบร่องรอย หรือเบาะแสอะไร ที่บ่งชี้ว่าเด็กพลัดหลง ไม่ว่าจะเป็นรอยเท้าของเด็ก หรือ เสื้อผ้า
อีกทั้งในพื้นที่ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน จึงเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่เด็กจะถูกลักพาไป แต่จะด้วยสาเหตุอะไรยังอยู่ระหว่างสอบปากคำ
และสงสัยเรื่องการลักพาตัว ตำรวจขยายผลตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัย 2 ใน 3 คัน ที่เข้า-ออกหมู่บ้านช่วงเวลาเกิดเหตุ คันแรก เป็นรถกระบะ โตโยต้า สีบรอนด์เทา ทะเบียน กอ 6264 เชียงใหม่ ของนายวุฒิไกร ดิษยวณิช อายุ 43 ปี ชาวบ้านป่าติ้ว ต.สันโป่ง อ.แม่ริม
ส่วนอีกคัน เป็นรถกระบะ โตโยต้า สีบอร์ทอง ทะเบียน ผล 4125 เชียงใหม่ ของนายกิตติศักดิ์ พรชุมภู อายุ 38 ปี ชาวตำบลเมืองนะ อ.เชียงดาว
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบรถของ นายวุฒิไกร มีร่องรอยครูด ใต้กันชนรถด้านหน้า แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ามาจากเหตุอะไร เพราะเส้นทางเข้าออกหมู่บ้านเป็นเส้นทางขึ้นลงเขาสูงชัน ที่รถอาจจะครูดกับพื้นได้ส่วนรถคันที่สาม ยังอยู่ระหว่างติดต่อประสานเจ้าของ ให้นำรถเข้ามาตรวจสอบ
นอกจากรถกระบะที่ตรวจสอบแล้ว ตำรวจยังตรวจสอบรถจักรยานยนต์ของกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านรวมทั้งหมด 13 คัน เพื่อหาว่าพบอะไรที่ผิดสังเกตหรือไม่ ขณะที่การตรวจสอบหาหลักฐานทางตำรวจระบุว่าเป็นเรื่องยาก เพราะมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ผิวถนนที่เป็นดินเละเป็นโคลน อาจทำให้หลักฐานบางอย่างถูกทำลายไป
ส่วนตัวผู้ต้องสงสัย 1 คน ที่เป็นชายชาวเมียนมาและเป็นเพื่อนของพ่อน้องจีน่า ซึ่งเป็นคนที่เข้าออกบ้าน มีความคุ้นเคยกับ “น้องจีน่า”สามารถอุ้มเล่นได้โดยเด็กไม่ขัดขืน เบื้องต้นผู้ต้องสงสัยคนนี้ก็ยังให้การปฏิเสธ แต่ทางตำรวจยังคงควบคุมตัวไว้สอบปากคำเพิ่มเติม เพราะยังมีข้อมูลบางอย่างที่ไม่ตรงกัน ขณะนี้ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามตัว "น้องจีน่า" ให้พบ
