คลิปวิดีโอ ที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อว่า “หนุ่มเมืองบั้งไฟ หัวใจไก่ชน” จะเห็นว่า มีวินรถจักรยานยนต์รับจ้างพยายามเรียกให้ผู้โดยสารลงจากรถแท็กซี่ โดยอ้างว่า พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอินไม่อนุญาตให้แท็กซี่จากด้านนอกเข้ามารับผู้โดยสาร จะต้องใช้บริการวินรับจ้างให้ไปส่งด้านหน้า นิคมอุตสาหกรรมก่อนถึงจะต่อรถคันอื่นได้
ทีมข่าวได้สัมภาษณ์ นายสงคราม กาลจักร คนขับรถแท็กซี่ ที่บันทึกคลิปวิดีโอไว้บอกว่า วันที่เกิดเหตุ ตนได้รับผู้โดยสารไปส่งภายในนิคมอุตสาหกรรม หลังจากนั้นมีพนักงานเรียกรถแท็กซี่ของตน
สาวร้องเจอวินมอเตอร์ไซค์นิคมนวนคร บังคับซ้อนสาม
ตำรวจแจ้ง 5 ข้อหา หนุ่มอ้างตัวเป็นวินมอเตอร์ไซค์ เรียกเก็บเงินแพงเกินจริง
โดยบอกว่าจะไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล หลังจากที่ผู้โดยสารขึ้นรถมาแล้วได้มีวินรถจักรยานยนต์รับจ้างเข้ามาบอกว่ารถแท็กซี่ไม่สามารถรับผู้โดยสารภายในนิคมอุตสาหกรรมได้และให้ผู้โดยสารลงจากรถซึ่ง ขณะนั้นผู้โดยสารรีบไปจึงไม่ยอมลงจากรถแล้วบอกให้ตนเองขับรถออกไปเลย เมื่อออกรถไปสักพักวินรถจักรยานยนต์รับจ้างคนเดิมก็ได้ขี่รถมาปาดหน้าขวางรถตัวเองไว้ ตนจึงถ่ายคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งจากที่สังเกตคนขับวินรถจักรยานยนต์ ไม่มีป้ายชื่อรวมถึงทะเบียนรถเป็นสีขาว คล้ายกับว่าเป็นวินเถื่อน
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ได้สอบถาม วินรถจักรยานยนต์รับจ้างคันดังกล่าว บอกว่า ตนมองว่าการที่คนเรามีอาชีพบริการในการขับรถรับจ้าง ไม่ควรที่ จะเอาเปรียบซึ่งกันและกัน และเป็นข้อตกลงระหว่างคนขับแท็กซี่กับวินจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งแบ่งพื้นที่การทำมาหากินเท่านั้นเอง พอมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ จึงรู้สึกโมโห แต่ตนเองไม่ได้พูดจาหยาบคายแต่อย่างใดแค่อธิบายเหตุผลให้เข้าใจ
ด้าน นาย ดิสพล ยิ้มขลิบ ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ระบุว่า ทางนิคมฯ ไม่มีนโยบายห้ามรถแท็กซี่เข้ามารับคนหรือส่งคนในนิคมฯ โดยหลังจากนี้จะต้องทำความเข้าใจกับวินจักรยานยนต์ รับจ้าง การกระทำแบบนี้ทำให้นิคมฯ ได้รับความเสียหาย
ด้าน พ.ต.ท.กิตติธร ศัลยรื่น สว.ป้องกันปราบปราม สภ.บางปะอิน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างคันดังกล่าว พบว่าเป็นวินถูกต้องตามกฎหมาย และได้ทำความเข้าใจว่ากล่าวตักเตือน ส่วนเรื่องที่คนขับแท็กซี่ อ้างว่า รถคันดังกล่าวเป็นป้ายขาว ได้รับคำตอบว่า รถเสียจึงนำรถลูกสาวมาใช้ จึงได้สั่งปรับในการใช้รถผิดประเภท