ภาคต่อเกียร์อาร์ ชายหัวร้อนถอยชนรถหญิงท้อง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หลายคนบอกว่าเหตุการณ์นี้เป็นภาคต่อเกียร์อาร์ เมื่อปรากฎคลิปมีคู่กรณีขับรถปาดกัน จอดเจรจาบนถนนแจ้งวัฒนะ แต่เหมือนคุยกับไม่รู้เรื่อง ทำให้ฝ่ายหนึ่งที่เป็นชายตัดผมหัวเกรียน เดินหันหลังขึ้นรถก่อนจะใส่เกียร์อาร์ถอยหลังชนคู่กรณีแล้วขับหนีไปทันที โดยไม่รู้ว่า รถคู่กรณีมีหญิงท้อง 6 เดือนอยู่ด้วย

คลิปที่ชายคนหนึ่งขับรถกระบะสีดำ พยายามเจรจาบางอย่างกับคู่กรณีที่ขับรถเก๋งฮอนด้า สีบรอนซ์ เหมือนจะยังคุยกันไม่ลงตัว แต่จู่ๆ คู่กรณีเดินหันหลังกลับขึ้นรถไป ก่อนจะใส่เกียร์อาร์ถอยหลังมาชนรถกระบะของฝ่ายตรงข้าม โดยจังหวะเกิดเหตุมีคนเห็นเหตุการณ์จำนวนมาก เป็นทั้งคนขับแท็กซี่และคนงานก่อสร้าง ที่ช่วยกันถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน  และเมื่อคลิปถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตก็เข้ามาซัดชายหัวเกรียนเกียร์จำนวนมากว่าคนประเภทนี้ต้องเล่นให้หนัก และรับคำขอโทษเป็นเงินอย่างเดียว

ล่าชายหัวร้อนใส่เกียร์อาร์ ถอยชนรถหญิงท้อง

“ไวท์ ณวัชร์” ช็อก! พ่อแม่ถูกทำร้ายร่างกาย เล่านาทีเก๋งหัวร้อนปาดหน้า เกิดปะทะเดือด

หลังคลิปนี้ถูกเผยแพร่ ทีมข่าวพีพีทีวีตามแกะรอยเหตุการณ์ จนพบกับนายลินพิชญ์ ปินใจยะ อายุ 33 ปี คนขับรถกระบะ เขาเล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวาน (22 ก.ย.64) ช่วงเที่ยง ระหว่างที่ตัวเองขับรถพาภรรยา ที่กำลังตั้งครรภ์ 6 เดือน ไปซื้อของ ระหว่างขับรถอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ มุ่งหน้าวิภาวดีรังสิต มีรถเก๋งฮอนด้าของคู่กรณี ขับปาดหน้าแบบกระชั้นชิด รู้สึกตกใจมาก จึงบีบแตรไป 1 ครั้ง ก่อนที่คู่กรณีจะขับรถแบบเบรกแล้วหยุดเหมือนแกล้งตัวเอง ก่อนจอดรถหลังลงจากสะพานข้ามสี่แยก

ส่วนตัวเชื่อว่าตอนนั้นฝ่ายตรงข้ามตั้งใจหาเรื่อง จึงลงไปเจรจาเมื่อลงไปพบว่าคู่กรณีไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย และได้กลิ่นเหล้า ระหว่างนั้นตนเองเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาก่อน ถามว่าเมาใช่หรือไม่  คู่กรณีไม่ตอบ  จึงบอกไปว่า “ที่รถมีกล้องและมีประกันนะ” คู่กรณีจึงด่าด้วยคำหยาบคาย 1 คำ พร้อมกับขึ้นรถไปแล้วถอยหลังมาชนท้ายรถตัวเอง ตอนนั้นรู้สึกเป็นห่วงภรรยาที่กำลังท้องอยู่อย่างมาก กังวลจะได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทก เพราะนั่งฝั่งเดียวกันกับที่ถูกชนพอดี ยอมรับว่าทำอะไรไม่ถูก ส่วนตัวเชื่อว่าคู่กรณีหงุดหงิดเพราะตนเองบีบแตรใส่

นายลินพิชญ์ บอกอีกว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางเขน แต่หลังจากนั้น ปรากฎว่าคู่กรณีมีการติดต่อมาพร้อมกับขอโทษ และขอนัดเจรจาไกล่เกลี่ย เลยตอบกลับไปว่าให้พูดคุยที่ สน.บางเขนเท่านั้น หลังจากนั้นก็มีเพื่อนของคู่กรณีโทรมาอีก 2-3 คน จึงตั้งข้อสังเกตว่าคู่กรณีใช่ตำรวจหรือข้าราชการหรือไม่ เพราะแปลกใจว่าเอาเบอร์โทรศัพท์ของตนเองมาได้อย่างไร ส่วนตัวไม่ได้ให้เบอร์โทรศัพท์กับใคร ยกเว้นตำรวจ

ทีมข่าวพีพีทีวีโทรศัพท์ไปสอบถาม พ.ต.อ.อรรถพล มีเสียง ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลบางเขน ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุที่เป็นคู่กรณี ไม่ใช่ตำรวจอย่างแน่นอน รับปากว่าจะดำเนินคดีตามขั้นตอน โดยคดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับทำให้เสียทรัพย์ สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยได้ เบื้องต้นนัดทั้งคู่เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (27 ก.ย.2564)

ขณะที่ทีมข่าวพีพีทีวีสำรวจพื้นที่จุดเกิดเหตุพบว่าการจราจรค่อนข้างหนาแน่น เนื่องจากกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้า มีช่องทางเดินรถมีแค่ 2-3 ช่องทาง ไม่พบคนงานก่อสร้างที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว

ด้านนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ เปิดเผยว่ากรณีนี้เป็นการถอยรถชนโดยเจตนา มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 358 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ทำให้เสียทรัพย์ชัดเจน เทียบเคียงได้กับคดีของเก่ง เกียร์ R เมื่อหลายปีก่อน ผู้เสียหายสามารถยื่นคำร้องให้อัยการริบรถและใบอนุญาตขับขี่ได้

ทนายเดชาบอกอีกว่า คดีลักษณะนี้ถือว่ามีความผิดร้ายแรง แม้ตัวคดีจะไม่ซับซ้อน ส่วนเรื่องที่ผู้เสียหายบอกว่าคู่กรณีเมา ใช้เป็นจุดที่ทำให้เพิ่มโทษได้หรือไม่ ทนายเดชาบอกว่าไม่สารถทำได้ ยอมรับว่าเป็นช่องโหว่ของกฎหมาย เพราะการอ้างว่าเมาสุรา เวลาผ่านไป ไม่สามารถพิสูจน์ได้

   

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ