ไม่ใช่แฮก! พบ 19 อาสาสมัครลงทะเบียน ต้องสงสัยเก็บค่าหัวฉีดวัคซีนบางซื่อ
จับโป๊ะ สวมสิทธิฉีดวัคซีนบางซื่อ 2,000 สิทธิ
แจ้งจับโจร!! แฮกระบบค่าย "ทรู" ฉกโควตาวัคซีนขายสิทธิ เรียกเก็บหัวคิว 500 -1,000 บาท
เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลิปเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ให้บริการฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ ประกาศแจ้งให้ผู้ที่เดินทางมาเข้ารับการฉีดวัคซีนในวันดังกล่าวรับทราบว่า เจ้าหน้าที่พบการทุจริตในการลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีน พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนกว่า 600 คน ที่คาดว่าจ่ายเงินให้กับมิจฉาชีพกลุ่มดังกล่าว ให้ข้อมูลการทุจริตกับเจ้าหน้าที่ด้วย ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด
ต่อมาข้อมูลทั้งหมดได้กลายเป็นเบาะแสสำคัญ ต่อการสืบหาตัวผู้ร่วมขบวนการบกุมผู้ต้องหา 7 คน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
โดยช่วงสายของวันนี้ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ ได้คุมตัวผู้ต้องหา 2 ใน 7 คน ที่ร่วมขบวนการดังกล่าว มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ บริเวณประตู 4 อาคารสถานีกลางบางซื่อ จุดที่ผู้ต้องหาใช้คอมพิวเตอร์ลักลอบลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีน เนื่องจาก 2 คนนี้ ก่อเหตุที่นี่ ระหว่างการทำแผน ก็มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ร่วมสังเกตการณ์
ช่วงหนึ่งระหว่างทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หนึ่งในผู้ต้องหา ยอมรับว่า เคยเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในฐานะจิตอาสาที่ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ โดยรับช่วงต่อจากโอเปอร์เรเตอร์เครือข่ายมือถือ โดยยืนยันว่าสิ่งที่ทำไม่ใช่การตัดโควตาใคร เป็นเพียงการเพิ่มรายชื่อคนที่จะมารับวัคซีนในวันนั้น ๆ ซึ่งตอนแรกเพียงแค่เพิ่มชื่อคนรู้จักให้โดยไม่เก็บเงิน ต่อมามีคนสนใจเพิ่มและเสนอค่าตอบแทนให้ โดยคิดค่าบริการ คนละ 200-300 บาท ได้เงินมาแล้ว 4 ล้านบาท
นายอนุทิน ระบุว่า เท่าที่ทราบตอนนี้มีผู้เสียหายหลายคน มูลค่าความเสียหายกว่า 7 ล้านบาท ส่วนปัญหาเชิงระบบเกี่ยวกับการลงทะเบียนที่เป็นช่องโหว่ ตอนนี้ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว พร้อมย้ำเตือนกับประชาชนว่ารัฐมีหน้าที่ให้บริการวัคซีนป้องกันโควิดฟรีกับประชาชนทุกคน ดังนั้นหากให้เรียกรับผลประโยชน์ บุคคลดังกล่าวถือเป็นมิจฉาชีพ และ หากพบเจอควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็ว
สำหรับความผิดของผู้ต้องหาทั้ง 7 คน เบื้องต้น พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ ระบุว่าผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ และจะถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันเข้าถึงข้อมูลโดยมิชอบ และฉ้อโกง โดยการเจ้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์