ตร.กดดันหนัก ล่าตัว “พิยดา” เชื่อยังอยู่ไทย เผยสาเหตุโกงตั้งแต่อายุ 16 แต่ลอยนวล


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ปฏิบัติการล่าตัวเบื้องหลังร้านค้าในอินสตาแกรม phonebymint โกงเงิน “น้องก้อง” เด็กนักเรียนชั้น ม.2 สั่งโทรศัพท์ไปแต่ไม่ได้ของ จนเครียดเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต ล่าสุดตำรวจไซเบอร์คาดว่า “พิยดา” อาจมอบตัวคืนนี้ ขณะที่โซเชียลมีเดียขุดพฤติกรรมของ “พิยดา” เจ้าของร้าน ออกมาแฉเรื่อย ๆ บอกว่ามีพฤติกรรมการโกงมาตั้งแต่อายุ 16 ปี จนปัจจุบันอายุ 19 โดยใช้วิธีการจ้างคนอื่นเปิดบัญชีให้เพื่อเลี่ยงความผิด

แฉร้านค้าโกงขายมือถือเด็กม.2 ทำเป็นขบวนการ

เครียดโดนโกง ด.ช.เส้นเลือดสมองแตกดับ

ตร. เร่งล่า คนโกงมือถือ ด.ช.วัย 14 พบชื่อเจ้าของ บช.รับโอนเงินแล้ว

เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพที่ผู้ใช้ เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ระบุว่า นี่คือ น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ที่เป็นต้นตอเปิดร้านค้าในอินสตาแกรม “phonebymint” ล่อลวงคนให้โอนเงินมาซื้อสินค้า แต่สุดท้ายเชิดเงินไป ไม่ส่งของให้ หนึ่งในผู้เสียหายคือ “น้องก้อง” เด็กวัย 14 ปี ที่เครียดหนักจนเส้นเลือดในสมองแตก โดยโพสต์นี้ระบุว่า “ชีวิตดีๆ บนความตายของผู้อื่น โกงมามาเกิน 5 ปี ผู้เสียหายเกิน 500 คน มีเงินหมุน 35 ล้าน”
 

พร้อมบอกว่า น.ส.พิยดา มีการเปิดหลายเพจ และจ้างคนเปิดบัญชีไปทั่ว ซึ่งตนเองได้รวบรวมรายชื่อที่ใช้โกงได้ 145 บัญชี แล้ว แต่เชื่อว่าน่าจะมีเยอะกว่านั้น

ทีมข่าว PPTV ได้พูดคุยกับ น.ส.ปิยวรรณ นิ่มนวล ผู้เสียหายที่สั่งซื้อนาฬิกาแอปเปิ้ลวอชมือสอง จำนวน2 เรือน รวม 6,800 บาท จากอินสตาแกรม “applewatchbymintphone” ซึ่งเชื่อว่าเป็นหนึ่งในร้านเครือข่ายของ “phonebymint” ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่สุดท้ายไม่ได้ของ จนไปแจ้งความไว้กับ สภ.อ่าวช่อ จ.ตราด

น.ส.ปิยวรรณ เปิดเผยว่า หลังจากไปแจ้งความ ก็พยายามสืบเรื่องนี้ จนไปพบบัญชีเฟซบุ๊กของชายวัยรุ่นซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ตนโอนเงินไป จึงทักไปสอบถามว่าทราบเรื่องหรือไม่ว่าถูกนำชื่อไปเปิดบัญชีธนาคารใช้โกงคนอื่น ปรากฏว่าเจ้าของบัญชีอ้างไม่ทราบเรื่องเพราะทำบัญชีหาย แต่เมื่อตนแนะนำให้ไปแจ้งความดำเนินคดี กลับบ่ายเบี่ยง จึงสงสัยว่า มีส่วนร่วมกับขบวนการของ น.ส.พิยดา หรือไม่

ด้าน พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เปิดเผยกรณีที่มีการเผยแพร่รายชื่อเจ้าของบัญชีธนาคารกว่า 140 รายชื่อ ผ่านทางเฟซบุ๊กโดยเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับ น.ส.พิยดา  ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบ เบื้องต้นพบบัญชีที่เกี่ยวข้องกับบัญชีอีวอลเลท 29 บัญชี ที่เชื่อมโยงไปถึง น.ส.พิยดา เนื่องจากมีการใช้บัญชีเหล่านั้น สั่งซื้อสินค้าให้มาส่งที่บ้านที่ตำรวจไปตรวจค้น ส่วนบัญชีอื่น ๆ อีกกว่า 100 บัญชียังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบหาความเชื่อมโยง

โดย พล.ต.ท.กรไชย เปิดเผยพฤติกรรมการใช้เงินของ น.ส.พิยดา ว่า ไม่สามารถใช้บัญชีของตัวเองในการทำธุรกรรมได้ เนื่องจากถูกอายัด และเป็นบุคคลที่ ปปง. แจ้งข้อหาฟอกเงิน ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน ที่ผ่านมา จึงอาศัยบัญชีชื่อคนอื่นในการเก็บเงินและซื้อของที่อยากได้ อย่างไรก็ตามผู้ที่เปิดบัญชีให้กับนางสาวพิยดาทำทุรกรรมทางการเงินทั้งหมดถือว่ามีความผิดด้วย ซึ่งเจ้าของบัญชีจะมาร้องห่มร้องไห้ อ้างว่าไม่รู้เห็นไม่ได้ เพราะมีฐานะเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดเรื่องการฉ้อโกง ซึ่งตำรวจจะออกหมายจับทุกคน

ส่วนความคืบหน้าในการติดตามตัว น.ส.พิยดา มาดำเนินคดี พล.ต.ท.กรไชย ยืนยันว่า สามารถปิดคดีได้ไม่ยาก โดยเชื่อว่า น.ส.พิยดา ยังคงหลบหนีอยู่ในประเทศ ใช้เส้นทางขึ้นไปทางเหนือ

เมื่อถามว่าน่าจะใช้เวลาประมาณกี่วัน พล.ต.ท.กรไชย ตอบว่า วันนี้อาจจะมามอบตัวด้วยซ้ำ เพราะรู้ตัวว่าตำรวจตามทุกที่ ทั้งบ้านญาติ บ้านพ่อแม่ บ้านแฟน รวมไปถึงบ้านญาติแฟน แต่ถ้าสุดท้ายจะไม่เข้ามอบตัวก็ไม่เป็นไร จะได้หนีให้หัวซุกหัวซุน อยู่แบบลำบาก จะได้เข้าใจความรู้สึกของคนที่ถูกโกงไปว่าเขารู้สึกยังไง เพราะสุดท้ายตำรวจก็จับได้แน่

นอกจากนี้ เมื่อถามถึงกรณีสังคมตั้งข้อสังเกตว่ามีการโกงเงินมาตั้งแต่อายุ 16 ปี เหตุใดจึงยังลอยนวลมาโกงต่อได้จนถึงทุกวันนี้ พล.ต.ท.กรไชย ระบุว่า เพราะเจ้าตัวไม่ได้ใช้ชื่อตัวเองแต่ใช้ชื่อคนอื่น ซึ่งยืนยันว่าที่ผ่านมาตำรวจก็ไม่ได้ละเลย และทำการสืบสวนมาโดยตลอด แต่เพิ่งเชื่อมโยงไปถึงตัว น.ส.พิยดา ซึ่งเป็นต้นขบวนการ โดยยืนยันว่าการกระทำผิดของ น.ส.พิยดา ครั้งนี้ โทษหนักกว่ากรณีที่เคยถูกดำเนินคดีในพื้นที่ สภ.คลองหลวง เพราะมีผู้เสียหายจำนวนมาก ความผิดหลายกรรมหลายวาระ

 

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ