จากกรณีน้องก้อง ด.ช.วัย 14 ปี เครียดจนเส้นเลือดในสมองแตก หลังถูกหลอกซื้อโทรศัพท์มือถือทางอินสตาแกรม PHONEBYMINT ที่ต่อมาตำรวจไซเบอร์สืบสวนจับกุม เยาวชนหญิง 2 คน รับจ้างเปิดบัญชีและต่อมาตำรวจ จ.เชียงใหม่ ออกหมายจับกุม น.ส.พิยดา อายุ 19 ปี ซึ่งเข้ามอบตัว ที่สภ.นาหวาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้ (29 ก.ย.) ตำรวจค้นรีสอร์ทที่บิดา และแม่เลี้ยงของ "พิยดา" พัก พบโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง หนึ่งในนั้นเป็นของ น.ส.พิยดา และเงินสด 7 แสนบาท
คุมตัว พ่อ-แม่เลี้ยง "พิยดา" เชื่อรู้เห็น
เครียดโดนโกง ด.ช.เส้นเลือดสมองแตกดับ
ความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.พิยดา พนักงานสอบสวนควบคุมตัว น.ส.พิยดา ผู้ต้องหาคดีหลอกขายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นเหตุให้เด็กชายนักเรียนชั้น ม.2 อายุ 14 ปี ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เครียดจนเส้นสมองแตกเสียชีวิต ทำการสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อทำสำนวนดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริต และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์น รวมทั้งความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน
ก่อนที่ตำรวจนำตัวนางสาวพิยดา ออกจากสถานีตำรวจภูธรนาหวาย ไปควบคุมตัวต่อไว้ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่พนักงานสอบสวนไปศาลจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยื่นคำร้องขอฝากขังนางสาวพิยดา โดยมีทนายความของนางสาวพิยดา ตามไปที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเตรียมยื่นเรื่องขอประกันตัวด้วย
นางสาวพิยดา เผยระหว่างที่เดินลงจากสถานีตำรวจไปขึ้นรถควบคุมตัวผู้ต้องหา อ้างว่า รู้สึกเสียใจที่ตกเป็นเครื่องมือถูกหลอกใช้ จากครอบครัวของแฟนหนุ่มในการก่อเหตุกระทำความผิด หลอกขายโทรศัพท์มือถือจนมีผู้เสียหายจำนวนมาก
น.ส.พิยดา ยืนยันว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นใดๆ เกี่ยวกับการกระทำความผิดที่เกิดขึ้นเลย แต่ถูกแอบอ้างนำชื่อไปใช้ในการก่อเหตุและโยนความผิดมาให้รับคนเดียว โดยในกรณีของ “น้องก้อง” เด็กชายนักเรียนชั้น ม.2 อายุ 14 ปีที่เสียชีวิตนั้น ตัวเองไม่ได้มีส่วนรู้เห็นและไม่ได้เป็นคนหลอกขายโทรศัพท์ให้ อย่างไรก็ตามเมื่อเป็นคดีและมีชื่อตัวเองตกเป็นผู้ต้องหาแล้วก็รู้สึกเสียใจและขอโทษครอบครัวของผู้เสียหายด้วย
ด้านนายวิเชียร อินเรน ทนายความส่วนตัวของนางสาวพิยดา เปิดเผยว่า เบื้องต้นถึงเวลานี้นางสาวปฏิเสธ ยืนยันให้การตลอดข้อกล่าวหา และจากนี้กำลังเร่งตรวจสอบรวบรวมเอกสารเกี่ยวกับรายรับรายจ่ายเพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานยืนยันในการต่อสู้คดี
ส่วนประเด็นที่นางสาวพิยด้าอ้างว่าครอบครัวของแฟนหนุ่มเป็นผู้บงการทั้งหมด โดยที่ตัวนางสาวพิยดาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นด้วยนั้น ตัวเองยังไม่ทราบข้อเท็จจริง
ขณะที่ในส่วนของเรื่องเงินจำนวน 700,000 บาท ที่พ่อและแม่เลี้ยงเตรียมมาเพื่อใช้เป็นหลักทรัพย์ประกันตัว แต่ถูกตำรวจอายัดไปตรวจสอบนั้น กำลังเร่งทำเรื่องขอคืนจากตำรวจ และกำลังรอว่าจะได้รับอนุญาตหรือไม่
ทั้งนี้ไม่ขอออกความเห็นว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ สำหรับการขอประกันตัวนางสาวพิยดานั้น จะต้องไปยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะพยายามทำให้ทันภายในวันนี้ ส่วนจะได้รับอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่นั้น เป็นดุลยพินิจของศาล
ขณะที่ พ.ต.อ.สกุลรัชช์ คงทอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนาหวาย อำเภอเชียงดาว เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนจะยื่นคำร้องขอฝากขังนางสาวพิยดา ต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในชั้นสอบสวนทางพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ส่วนขั้นตอนการยื่นประกันตัวในชั้นศาลนั้นเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่สามารถทำได้
ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่า ทางครอบครัวของนางสาวพิยดา พร้อมทนายความ เตรียมยื่นเรื่องขอประกันตัวที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ตามขั้นตอน
มีรายงานข่าวแจ้งว่า หากศาลให้ประกันตัวก็มีหมายจับจากพื้นที่อื่นเตรียมอายัดตัวไปดำเนินคดีต่อไปแล้ว แต่หากศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ทางเจ้าหน้าที่จะทำการส่งนางสาวพิยดาไปควบคุมอยู่ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างดำเนินคดี เนื่องจากอายุยังไม่ครบ 20 ปี และหากได้รับการปล่อยตัวก็มีหมายจับจากพื้นที่อื่นเตรียมอายัดตัวไปดำเนินคดีต่อเช่นกัน
แฉ!ที่นอนยางพาราไม่ตรงปกยัดไส้ขยะโฟม
ญี่ปุ่นพบเคสประหลาด หายป่วยโควิด-19 เกิด “ภาวะทวารหนักอยู่ไม่สุข”
ต่อมามีรายงานว่า ช่วงบ่ายวันนี้ นายวิเชียร อินเรน ทนายความ นำเงินสด 400,000 บาท เป็นหลักทรัพย์ยื่นประกันตัวนางสาวพิยดา ทองคำพันธ์ อาย 19 ปี ต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่พนักงานสอบสวน สภ.นาหวาย ส่งตัวฝากขังเป็นผัดแรก โดยศาลจังหวัดเชียงใหม่พิจารณาไม่อนุญาตให้ประกันตัวเนื่องจากเกรงมีพฤติการณ์หลบหนีตามความเห็นคัดค้านของพนักงานสอบสวน ทำให้นางสาวพิยดาถูกส่งตัวไปฝากขังที่ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ทันที
ขณะที่นายวิเชียรระบุจะเตรียมหาเหตุผลเพื่อยื่นขอประกันตัวต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ ส่วนพ่อและแม่เลี้ยง ได้เดินทางกลับบ้านหลังทราบข่าวลูกไม่ได้ประกันตัว