"อดีตผู้กำกับโจ้" สารภาพกลางศาล รับผิดเพียง 3 ข้อหา พูดปมรีดเงิน ลูกน้องซัดนายสั่ง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ศาลอาญาทุจริตฯนัดสอบคำให้การ 'ผกก.โจ้ - ธิติสรรค์ อุทธนผล' มาศาลพร้อม 6 อดีตตำรวจ ให้การสารภาพ 3 ข้อหา ปฏิเสธฆ่าทารุณ ไร้เจตนารีดเงิน 'พ่อมาวิน' ยังเศร้า ขอเป็นโจทก์ร่วม ขอศาลให้ความเป็นธรรม

ภายหลังจากที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้อง "อดีตผู้กำกับโจ้" พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับการ.สภ.เมืองนครสวรรค์ และพวกตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ รวม 7 คน ใน 4 ข้อหา 

ล่าสุดวันนี้ (19 พ.ย.64) ศาลศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดสอบคำให้การ โดยศาลอนุญาตให้สื่อมวลชนติดตามการพิจารณาผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเร้นซ์เท่านั้น ทั้งนี้อดีตผกก.โจ้ และจำเลยทั้ง 5 ถูกเบิกตัวมาศาล โดยทั้ง 7 คน มีสีหน้าเรียบเฉย

ด่วน! ศาลชี้ คดี "อดีตผู้กำกับโจ้" ถุงดำคลุมหัวฆ่า "มาวิน" โจ้ขอออกคุก ทนายเตรียมหลักทรัพย์ประกันตัว

คำถาม - คำตอบสุดพีค จากปาก "ผู้กำกับโจ้" ธิติสรรค์ อุทธนผล สารภาพความจริง หรือ ข้ออ้างสู้คดี!!

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในห้องพิจารณาคดี ของพ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ พร้อมพวกรวม 7 คน  ทั้งหมดมีสีหน้าท่าทางเรียบเฉย ไม่ได้อยู่ในอาการเครียด ภายในห้องศาลอนุญาตให้มีเพียง จำเลย ทนายความ ฝ่ายจำเลย อัยการโจทก์ และเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์อยู่ภายในห้องเท่านั้น โดยแบ่งห้องให้สื่อมวลชนติดตามการพิจารณาคดีอยู่อีกห้องหนึ่ง ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเร้นซ์

ขณะที่อีกห้อง มีพ่อแม่ของ "มาวิน หรือนายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์"  มาร่วมฟังและขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีนี้  เช่นเดียว พ่อ แม่ ญาติของจำเลยมาร่วมฟังด้วย โดยมารดาของอดีตผกก.โจ้ มีสีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียด

ในการสอบคำให้การครั้งนี้ พ.ต.อ ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ ใน 3 ข้อหา

ข้อหาที่ 1 - ป.อาญา ม.157 เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

ข้อหาที่ 2 - ป.อาญา ม.172 เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

ข้อหาที่ 4 -  ป.อาญา ม.309 ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น

แต่ปฏิเสธ ข้อหาที่ 3 - ความผิดตามป.อาญา มาตรา 289(5)  ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย 

อดีตผู้กำกับโจ้ ให้เหตุผลต่อศาลว่า ตนเองและลูกน้องไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตาย แต่ต้องการต้องการขยายผลเพื่อจับกุมยาเสพติด ที่เป็นต้นเหตุของปัญหาสังคม ยืนยัน ไม่มีเจตนากระทำการทุจริตใดๆต่อหน้าที่ หรือเรียกรับผลเงินจากผู้ตาย จึงขอความเมตตาต่อศาล

ส่วนจำเลยที่เหลือต่างให้การ รับและปฏิเสธข้อหาแตกต่างกันไป โดยต่างอ้างว่า กระทำการไปตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา โดยไม่มีเจตนาที่จะประสงค์ต่อชีวิตของผู้ตาย

ทั้งนี้จำเลยทั้ง 7 โดนแจ้งข้อหา 4 ข้อหาเช่นเดียวกับอดีตผู้กำกับโจ้

พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง รับสารภาพ 3 ข้อหา ปฏิเสธ ข้อหาฆ่าฯโดยแถลงต่อศาลว่าไม่มีเจตนาฆ่าเป็นการกระทำเพื่อขยายผล และร่วมกันทำร้ายแต่ไม่มีเจตนาให้ถึงแก่ความตาย
 

ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค ให้การปฏิเสธทุกข้อหา โดยแถลงต่อศาลว่าเข้ามาภายในห้องที่เกิดเหตุภายหลัง และทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาร่วมกันทำร้ายแต่ไม่มีเจตนาฆ่าและยังช่วยปั๊มหัวใจผู้เสียชีวิตด้วย
 
ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา ให้การปฏิเสธ  3 ข้อหา  แต่รับภาคเสธ ข้อหาฆ่าทรมานโดยแถลงต่อศาลว่า การกระทำ ไปตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ไม่มีเจตนาให้ถึงแก่ชีวิต

ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว ปฏิเสธทุกข้อหา โดยแถลงต่อศาลว่า ไม่ได้ร่วมทำร้าย แต่อยู่ในเหตุการณ์ และไม่ได้โดนตัวผู้ต้องหา ตนเองมีหน้าที่นำตัวผู้ต้องหา มาให้ผู้บังคับบัญชาสอบปากคำขยายผล

ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น ให้การปฎิเสธทุกข้อหา โดยแถลงต่อศาลว่าเข้ามาภายในห้องที่เกิดเหตุแล้วเดินออกไปทันที ซึ่งใช้เวลาอยู่ภายในห้องประมาณ 1 นาที ขณะที่เข้าห้องไปนั้นเห็น ผู้เสียชีวิต อยู่บนพื้นแล้ว

ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว  ให้การปฎิเสธทุกข้อหาโดยแถลงต่อศาลว่า โดยในขณะนั้น ตนเองมีหน้าที่ขับรถให้ผู้บังคับบัญชา ไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อขับรถมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ได้ติดตามผู้บังคับบัญชาเข้าไปภายในห้อง และอยู่ในที่เกิดเหตุ ร่วมจับตัวผู้ต้องหาตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา แต่ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายหรือฆ่า

ด้าน เรืออากาศตรี จักรกฤษ จั่นดี บิดาของ "มาวิน" ผู้เสียชีวิต เผยว่า ทางอัยการที่ จ.นครสวรรค์ แนะนำให้ตนตั้งทนายขึ้นมาเป็นโจทก์ร่วม เพื่อจะได้รับทราบข้อมูล วันนี้ฟังคำให้การของจำเลย ทั้ง 7 ก็พูดสมเหตุสมผลถึงการทำงานของตัวเองว่าเพื่อขยายผล พวกเขาก็ทำงานดี แต่ตนสงสารลูก ทุกวันนี้ยังนอนหลับตาเห็นภาพลูกที่ถูกกระทำ มันรับไม่ได้จริงๆ วันนี้ตนจึงมาฟังที่เขาพูด ว่าพูดอย่างไรก็มาขอความยุติธรรมจากศาลว่าความเป็นจริงเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ในวันที่ 19 ม.ค.65 ศาลนัดสอบพยานอีกครั้ง

ข้อควรระวัง "ลอยกระทง" ทั้งพลุ ประทัด และ จมน้ำพบ 1 ใน 5 เป็นเด็ก

พบแล้ว ศพสาวโดดสะพานข้ามคลองย่านมอเตอร์เวย์ หลังค้นหาร่างกว่า 3 วัน

คดีนี้เราคงเรียกร้องอะไรไม่ได้มากกว่านี้ มาขอความเมตตาจากศาลซึ่งหลังเกิดคดียังไม่มีการติดต่อชดเชยเยียวยาความเสียหาย

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ