พ่อ-น้อง ไฮโซแบงค์ ไม่เชื่อลูกสาวฆ่าตัวตาย


โดย PPTV Online

เผยแพร่




การเสียชีวิตของนางสาวกัลยารัตน์ อัครเดชเดชาชัย หรือไฮโซแบงค์ เจ้าของธุรกิจสถาบันเสริมความงาม เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจสน.ทองหล่อ สรุปการเสียชีวิตเบื้องต้นว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เพราะพบร่องรอยบาดเจ็บที่คอ เป็นรอยมีด แต่ครอบครัวตั้งปมสงสัยว่าเป็นการฆาตกรรมหรือไม่ จึงเดินทางไปที่ สน.ทองหล่อ เพื่อทวงถามการเสียชีวิตที่แท้จริง

นายไตรรัตน์ และนางสาวกิรัติมา ณ พัทลุง พ่อและน้องสาว ของนาวกัลยารัตน์ อัครเดชเดชาชัย หรือไฮโซแบงค์ เจ้าของธุรกิจสถาบันเสริมความงาม อิมเมจินี่ และเดซี่ ดีวาคลินิก เข้าพบ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ และพนักงานสอบสวน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของไฮโซแบงค์ ซึ่งเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา

นางสาวกิรัติมา เปิดเผยว่า ตั้งแต่พี่สาวตนเองเสียชีวิตในบ้านพัก ครอบครัวตั้งปมสงสัยว่าเป็นการฆาตกรรมตั้งแต่แรก 

 

ศาลมุกดาหารนัดตรวจพยานหลักฐานคดีน้องชมพู่

ภาวะโลกร้อนทำให้ “นกในป่าแอมะซอน” เริ่มปรับตัว ขนาดเล็กลง-ปีกยาวขึ้น

แม้ว่าการสรุปสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นของตำรวจระบุว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ลักษณะนิสัยของพี่สาวเป็นคนร่าเริง รักตัวเอง

ส่วนในข่าวที่ระบุว่าพี่สาวป่วยเป็นโรคมะเร็งนั้นเป็นความจริง แต่พี่สาวได้รักษาด้วยวิธีการคีโมมาแล้ว 9 ครั้ง เหลืออีก 3 ครั้งจะสิ้นสุดกระบวนการรักษา อีกปมคือบาดแผลของพี่สาว ในใบมรณบัตรระบุว่าเกิดจากของมีคม ซึ่งตำรวจไม่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับครอบครัวว่าเกิดจากมีดทำครัวหรือว่าคัตเตอร์ และอีกปมที่สำคัญคือช่วงเวลาการเสียชีวิตเพราะตามข้อมูลรับทราบว่าตำรวจเข้าตรวจที่เกิดเหตุในเวลา 19:30 น. แต่ในใบมรณบัตร ระบุเวลาการเสียชีวิต 20:45 น. ของวันที่ 3 ก.ย. 64

หลังจากเข้าไปคุยกับตำรวจไม่นาน ครอบครัวไฮโซแบงค์ ออกมาเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตำรวจได้ขี้แจงสาเหตุที่การสรุปสำนวนการเสียชีวิตล่าช้าแล้ว ซึ่งนายเกรียงศักดิ์ อิ่มสมบูรณ์ ทนายความ ระบุว่า ผลการพิสูจน์หลักฐานประกอบการเสียขีวิตยังไม่ส่งถึงพนักงานสอบสวน จึงยังไม่เรียกครอบครัวสอบปากคำ ซึ่งครอบครัวผู้เสียชีวิตพอใจเรื่องความคืบหน้าว่าสำนวนระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะคดี พนักงานสอบสวนสอบปากคำสามีกับแม่บ้านในที่เกิดเหตุเท่านั้น

ตามจับโจรขโมยกระเป๋า สาวต่างด้าวท้องอ่อน

ตามเงินกว่า 63 ล้าน คืนให้ "หลวงพ่อพัฒน์" วัดห้วยด้วน ฟากไวยาวัจกร ยอมจำนนต่อหลักฐาน

ขณะที่น้องสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่าความสัมพันธ์ของครอบครัวกับสามีของพี่สาว ว่าไม่มีปัญหาอะไรกันซึ่งพบเจอกันครั้งสุดท้ายก็ตอนงานศพพี่สาวตัวเองโดยพูดคุยกันเพียงเล็กน้อย ส่วนมรดกของพี่สาวที่เป็นเจ้าของธุรกิจเสริมความงาม ฝ่ายพ่อผู้เสียชีวิต ได้ยืนร้องต่อศาลเพื่อขอตั้งให้น้องสาวผู้เสียชีวิตเป็นผู้จัดการมรดก แต่ไม่ทราบว่ามรดกของผู้เสียชีวิตมีจำนวนเท่าไหร่

“พัคชินฮเย – ชเวแทจุน” เตรียมวิวาห์ปีหน้า เผยข่าวดีตั้งครรภ์ลูกคนแรก

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ