ชายเมาอ้างเป็น "รองอธิบดี" ขับรถชนแล้วหนี
โฆษกศาลยุติธรรม รับ ชายเมาขับรถชนแล้วหนีเป็นผู้พิพากษาในสังกัด เร่งตรวจสอบรายละเอียด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนี้ ทางสำนักงานศาลยุติธรรมได้ออกเอกสารข่าว ชายซึ่งถูกถ่ายคลิปเผยแพร่ภายหลังเกิดเหตุรถเฉี่ยวชนรถกู้ภัย บริเวณแยกแสงตะวัน ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อ้างตัวว่าเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษา
ล่าสุดเมื่อวานนี้ 5 มกราคมที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวงเชียงใหม่ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายชาญศักดิ์ สมประโยชน์ จำเลย ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5
ฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น, ขับรถโดยประมาท ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานไม่ยอมทดสอบแอลกอฮอล์ และขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล แล้วไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควร
ศาลพิพากษาว่า โทษฐานขับรถขณะเมาสุรากับฐานขับรถโดยประมาท เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานขับรถขณะเมาสุราซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด พิเคราะห์พฤติการณ์เกี่ยวกับการกระทำความผิดกับความเสียหาย ซึ่งปรากฏตามคำฟ้องว่าจำเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายจนเป็นที่พอใจ ถือว่าจำเลยสำนึกผิดและบรรเทาผลร้ายแล้ว และจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลงโทษฐานขับรถขณะเมาสุรา คงปรับ 9,000 บาท ฐานขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น แล้วไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือตามสมควร ฯ คงปรับ 5,000 บาท ฐานไม่ปฏิบัติคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจร คงปรับ 500 บาท รวมปรับ 14,500 บาท และให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของจำเลยมีกำหนด 6 เดือน นับแต่วันมีคำพิพากษา ส่วนข้อหาอื่นให้ยก
โดยคดีนี้ หลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้วหากพนักงานอัยการโจทก์ไม่อุทธรณ์คำพิพากษา คดีก็จะถึงที่สุด แต่หากมีการอุทธรณ์คำพิพากษาก็ต้องรอผลการพิจารณาพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ต่อไป
สำหรับในการดำเนินการในส่วนอื่นนั้น สำนักงานศาลยุติธรรมอยู่ระหว่างรอรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากต้นสังกัดของนายชาญศักดิ์ ซึ่งเมื่อได้รับแล้วจะต้องพิจารณารายงานข้อเท็จจริงดังกล่าว ประกอบกับผลของคดีข้างต้นว่าจะต้องดำเนินการทางวินัยต่อไปหรือไม่อย่างไร ตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง