“หมอกระต่าย”จบ 2 ด้าน ในไทยมีไม่ถึง 10 คน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ในวงการการจักษุแพทย์ หรือ หมอตา ต่างพูดตรงกันว่า การสูญเสีย “หมอกระต่าย” ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ที่ประเมินค่าไม่ได้ เพราะหมอกระต่ายมีความรู้และจบเฉพาะด้านจอประสาทตาและม่านตาอักเสบ 2 ด้านพร้อมกัน ซึ่งในประเทศไทยมีไม่ถึง 10 คน และเป็นคนแรกของโรงพยาบาลตำรวจ

นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ที่สะท้อนว่าการสูญเสียที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าเศร้าและน่าเสียดายอย่างมากเพราะจักษุแพทย์ในไทยมีประมาณ 1,600 คน ในจำนวนนี้เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจอประสาทตา ประมาณ 300 คน และด้านม่านตาอักเสบ ประมาณ 30 คน ขณะแพทย์ที่จบ 2 ด้านนี้พร้อมกัน มีไม่ถึง 10 คน

โดย นพ.ศักดิ์ชัย อธิบายว่าเหตุผลที่ทำให้แพทย์ด้านม่านตาอักเสบมีจำนวนน้อย เพราะว่าเป็นสาขาใหม่ และต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการเรียนและปฏิบัติงาน

ฟัน 7 ข้อหาตำรวจขี่บิ๊กไบก์ชน "หมอกระต่าย" เสียชีวิต

อาลัย"หมอกระต่าย"ถูกตร.ขี่บิ๊กไบค์ชนบนทางม้าลาย

ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีเปิดสอนสาขานี้เพียง 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์  และ โรงพยาบาลศิริราช โดยปีหนึ่งจะผลิตแพทย์สาขานี้ได้ประมาณแห่งละ 2 คน เท่านั้น  และโดยเฉลี่ยจักษุแพทย์ที่เรียนต่อเฉพาะทางต้องใช้เวลาเรียนทั้งหมดประมาณ 14-15 ปี เพราะแพทย์ทั่วไปต้องใช้เวลาเรียน 6 ปี หากต้องการเรียนต่อด้านจักษุแพทย์ ต้องมีประสบการณ์ทำงานเป็นแพทย์ทั่วไปอย่างน้อย 3 ปี เรียนจักษุแพทย์ 3 ปี และเรียนต่อเฉพาะทางอีก 1-2 ปีขึ้นอยู่กับสาขาที่เรียน

สำหรับการสูญเสียหมอกระต่ายที่ถือว่านอกจากจะเป็นความสูญเสียในวงการจักษุแพทย์แล้ว  วันนี้ พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนคร ได้ยืนไว้อาลัย 1 นาที ก่อนจะแถลงข่าวและเปิดใจว่า การทำคดีไม่ใช่เรื่องยากหรือซับซ้อน แต่การแถลงข่าววันนี้ถือเป็นเรื่องยากที่สุดเท่าที่เคยแถลงข่าวมา เพราะเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก ความสูญเสียของพี่น้องประชาชน ซึ่งก็รวมถึงถึงวงการตำรวจด้วย เพราะหมอกระต่ายนอกจากจะเป็นจักษุแพทย์ ซึ่งเป็นบุคลากรที่มีคุณค่าในวงการแพทย์แล้ว ยังเป็นแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาล

สำหรับ หมอกระต่าย หรือ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล เกิดวันที่ 24 มกราคม 2531 ซึ่งวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของเธอ เธอเป็นลูกสาวของ นพ.อนิรุทธ์ สุภวัตรจริยากุล ซึ่งมีพี่น้อง 2 คน เป็นจักษุแพทย์ทั้งหมด  โดยหมอกระต่าย จบชั้นมัธยมต้นและปลายจากโรงเรียนสาธิตปทุมวัน จากนั้นศึกษาต่อที่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี รุ่นที่ 42 ก่อนจะจบและกลับไปทำงานใช้ทุนที่โรงพยาบาลสระบุรี

ต่อมาหมอกระต่าย ได้เรียนต่อเฉพาะทางจักษุวิทยา ที่โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) และเรียนต่อเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยาภูมิคุ้มกันอักเสบ และผู้เชี่ยวชาญด้านจอตาและวุ้นตา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์  โดยพบว่า หมอกระต่ายเพิ่งเรียนจบมาได้เพียง 2 เดือนและจากข้อมูลของ นพ.อนิรุทธ์ หมอกระต่ายกำลังจะเข้ารับราชการโรงพยาบาลตำรวจอย่างเต็มตัว    

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ