กนง.คงดอกเบี้ยนโยบาย 0.50%


โดย PPTV Online

เผยแพร่




คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ต่อปี เศรษฐกิจไทยยังต้องการแรงสนับสนุนจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับต่ำต่อเนื่อง การฟื้นตัวเศรษฐกิจยังเปราะบาง มีความไม่แน่นอนสูง จึงเห็นควรคงดอกเบี้ยนโยบายไว้

นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงผลการประชุม กนง. ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ต่อปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจและให้เน้นมาตรการช่วยเหลือที่ตรงจุดมากขึ้น 

ธ.ออมสิน เดินหน้าลดดอกเบี้ย ธุรกิจจำนำทะเบียนรถ

คณะกรรมการ กนง. ประเมินว่าแม้เศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นกว่าคาดแต่มีแนวโน้มฟื้นตัวช้า และยังต้องการแรงสนับสนุนจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับต่ำต่อเนื่อง การฟื้นตัวเศรษฐกิจยังเปราะบาง มีความไม่แน่นอนสูง จึงเห็นควรคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ และรักษาขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินที่มีจำกัด เพื่อใช้ในจังหวะเหมาะสมและเกิดผลสูงสุด

เศรษฐกิจไตรมาส 3 ปรับตัวดีขึ้นกว่าคาดแต่ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวช้าและแตกต่างกันมากระหว่างภาคเศรษฐกิจต่างๆ และคาดว่าใช้เวลา 2 ปี ก่อนที่เศรษฐกิจโดยรวมกลับสู่ระดับก่อนหการระบาด ส่งผลให้ภาคแรงงานยังเปราะบาง รายได้แรงงานอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะกดดันการบริโภคภาคเอกชนโดยเฉพาะกลุ่ม ผู้มีรายได้น้อยเมื่อปัจจัยสนับสนุนชั่วคราวเริ่มหมดลง 

ขณะที่ การใช้จ่ายภาครัฐ แนวโน้มต่ำกหว่าที่ประเมินไว้ ระบบการเงินมีเสถียรภาพ แม้จะมีความเปราะบางขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจและความเสี่ยงต่อฐานะการเงินของภาคธุรกิจและครัวเรือน สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจาก ราคาพลังงานงานที่เพิ่มขึ้น คาดอัตราเงินเฟ้อระยะปานกลางยังอยู่ในกรอบเป้าหมาย สภาพคล่องในระบบอยู่ในระดับสูง ต้นทางการเงินอยู่ใรระดับต่ำ ธุรกิจและภาคครัวเรือนบางส่วนยังไม่สามารถเข้าถึงสภาพคล่องได้โดยเฉพาะธุรกิจ SMEs 

ด้านอัตราแลกเปลี่ยน เงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเร็วจากนักลงทุนต่างชาติที่กลับเข้ามาลงทุนสินทรัพย์ตลาดเกิดใหม่มากขึ้นจาก ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 มีความคืบหน้า คณะกรรมการ กนง.กังวลต่อค่าเงินที่แข็งค่าเร็ว กระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง จึงติดตามตลาดอัตราแลกเปลี่ยนและเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด และพิจารณามาตรการที่เหมาะสมเพิ่มเติม

จ่าย!เบี้ยความพิการเพิ่มเติม 200 บาท 22 พ.ย. นี้

คณะกรรมการฯ เห็นว่าการประสานนโยบายระหว่างหน่วยงานภาครัฐมีความสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะถัดไป โดยนโยบายการเงินต้องผ่อนคลายต่อเนื่อง มาตรการทางการเงินและสินเชื่อควรเร่งกระจายสภาพคล่องไปสู่ผู้ที่ได้รับผลกระทบให้ตรงจุดและทันการณ์ รวมทั้งผลักดันให้สถาบันการเงินเร่งปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้เกิดผลในวงกว้าง สำหรับมาตรการการคลังมีบทบาทสำคัญในการพยุงเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง จึงควรเร่งเบิกจ่ายและให้ความช่วยเหลือกลุ่มที่เปราะบางอย่างตรงจุด ควบคู่กับการเร่งดำเนินนโยบายด้านอุปทานเพื่อปรับรูปแบบธุรกิจและยกระดับทักษะแรงงาน ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างยั่งยืนในระยะยาวภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ ยังคงให้น้ำหนักกับการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นสำคัญ รวมถึงติดตามความเพียงพอของมาตรการภาครัฐและปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ ความคืบหน้าของการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และฐานะทางการเงินของภาคธุรกิจและครัวเรือน ในการดำเนินนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า โดยพร้อมใช้เครื่องมือนโยบายการเงินที่เหมาะสมเพิ่มเติมหากจำเป็น

ที่มา :  https://www.facebook.com/bankofthailandofficial

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ