อีอีซี ยืนยันการลงทุน "เมืองการบิน" ยังเดินหน้าต่อเนื่อง
เปิดแผนแม่บท พัฒนาเมืองการบิน สู่ “ประตูเศรษฐกิจเอเชีย”
เสียงของรองเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ที่เล่าให้ฟังถึงการเกิดขึ้นของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งนอกเหนือจากการเป็นศูนย์กลางการพัฒนาธุรกิจเป้าหมาย พื้นที่โดยรอบประมาณ 30 ก.ม. โดยรอบสนามบินตั้งแต่พัทยาถึงระยอง การพัฒนาพื้นที่เมืองจะถูกพลิกโฉมครั้งสำคัญให้เป็นศูนย์กลาง “มหานครการบินภาคตะวันออก" ส่งผลให้อสังหาริมทรัพย์โดยรอบจะมีความเจริญก้าวหน้าอย่างมหาศาล
ด้วยพื้นที่ขนาด 6,500 ไร่ของ เมืองการบินนี้ จะเกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจใหม่อีกมาก เช่น ฟรีเทรดแอเรีย ศูนย์การขนส่งโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมการแพ็คของ ห้างสรรพสินค้า ร้านรวงรอบข้างหมือนกับที่สุวรรณภูมิในปัจจุบัน เมื่อเกิดธุรกิจแล้วก็ย่อมมีแรงงานจำนวนมากเข้ามาในพื้นที่ ธุรกิจที่พักอาศัย บริเวณโดยรอบก็จะถูกพัฒนาเป็นเมืองอัจฉริยะ เมืองน่าอยู่ ตามผังเมืองถูกวางไว้ให้เป็นเมืองใหม่ ที่สอดรับกับเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ อีอีซี
โดยหนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำของไทยอย่าง ออริจิ้น อีอีซี ก็มองว่า เมื่อนโยบายรัฐมีความชัดเจน เมกะโปรเจกต์อย่างโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตัวออก ที่ได้ลงนามมีเอกชนที่น่าเชื่อถือเข้ามาพัฒนาแล้ว ย่อมเป็นตัวสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการเข้าไปลงทุน ด้วยความเจริญของพื้นที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยโครงสร้างพื้นที่จะเชื่อมการเดินทางทั้งทางอากาศ ทางบก ทางน้ำ และทางราง
สำหรับการเกิดเมกะโปรเจกต์ในพื้นที่ ก็ไม่ได้สร้างปัจจัยบวกให้กับในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังส่งผลดีถึงอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในระดับประเทศด้วย เห็นได้จากข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่พบว่า การพัฒนาที่อยู่อาศัยในภาคตะวันออก 3 จังหวัด ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เติบโตสูงสุดเป็นอันดับสอง รองจากกรุงเทพ-ปริมณฑลเท่านั้น โดยมีซัพพลายในพื้นที่อยู่ถึง 77,931 หน่วย เป็นสัดส่วน 22% ของทั้งประเทศ
ด้วยพิษของโควิด-19 อาจทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ดร็อปลงมาในปีนี้ แต่ทางศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ก็มีการประเมินว่าแนวโน้มกำลังปรับดีขึ้นตามลำดับ แต่ในอีกแง่หนึ่งจังหวะย่อตัวแบบนี้ ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีของพี่น้องประชาชนที่จะได้ซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน
