ดัชนีหุ้นไทย 25 พ.ย.63 ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,415.72 จุด เพิ่มขึ้น +14.09 จุด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ดัชนีหุ้นไทย 25 พ.ย.63 ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,415.72 จุด เพิ่มขึ้น +14.09 จุด (+1.01%) มูลค่าการซื้อขาย 117,120 ล้านบาท

ดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 30,000 จุด เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ราคาทองวันนี้ – 25 พ.ย. 63 ปรับราคา 3 ครั้ง

กระทรวงอุตฯ เตรียมเคาะรถเก่าแลกรถใหม่อีก 15 วันได้ข้อสรุป

ดัชนีหุ้นไทย 25 พ.ย.63  ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,407.38 จุด เพิ่มขึ้น 5.75 จุด (+0.41%) มูลค่าการซื้อขายราว 69,103 ล้านบาท ขานรับ Sentiment จากนอกประเทศ ปัจจัยในประเทศ ได้แรงหนุนย้ายสถานที่ชุมนุม 

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นหลังจากร่วงแรงวานนี้ถึง 18 จุด ขานรับ Sentiment จากนอกประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก มีเพียงบางตลาดที่อ่อนตัวลงอย่างตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ และตลาดหุ้นไต้หวัน ซึ่งส่วนใหญ่บวกตามตลาดหุ้นสหรัฐ ขานรับความคืบหน้าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และรับปัจจัยบวกจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจให้แก่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่

ส่วนบ้านเราก็ยังได้แรงหนุนจากที่การชุมนุมทางการเมืองได้ย้ายสถานที่ชุมนุม ทำให้ลดโอกาสที่จะเกิดการปะทะกัน แต่ยังต้องจับตาการชุมนุมทางการเมืองต่อไป อีกทั้งตลาดฯยังได้แรงหนุนจาก Fund Flow ที่ยังไหลเข้า อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการปรับน้ำหนักการลงทุนของ MSCI ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 พ.ย.นี้

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดมี Upside จำกัดในช่วงรอดูการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งอาจเห็นแรงขายทำกำไรจากนักลงทุนในประเทศบ้างเพื่อลดความเสี่ยง

พร้อมให้แนวรับ 1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420-1,425 จุด

ดัชนีหุ้นไทย 25 พ.ย.63  เปิดการซื้อขาย 1,418.57 จุด เพิ่มขึ้น +16.94 จุด (+1.21 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 15,117.62 ล้านบาท ตามตลาดต่างประเทศ จับตาการเมืองไทย

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นได้หลังจากที่วานนี้ปรับตัวลงหนักตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย จากแรงขายทำกำไรของกองทุนหลังตลาดฯเข้าเขต Overbought แต่แรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ตลาดต่างประเทศต่างก็ปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า ทั้งตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดในยุโรป และตลาดสหรัฐฯที่ปรับขึ้นอย่างสดใส ขานรับความคืบหน้าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ทำให้มองว่าการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 น่าจะบรรเทาลงได้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจให้แก่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ แสดงให้เห็นว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ยอมรับผลการเลือกตั้ง รวมถึงมีการคาดการณ์ว่า นางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่

ปัจจัยดังกล่าวนี้ ทำให้มองว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะดีขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจน่าจะเห็นภาพได้มากขึ้น ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่า และมีแรงซื้อกลับเข้ามาที่สินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงมีเงินไหลเข้ามาในเอเชียด้วย ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นด้วย อีกทั้งราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวขึ้นแรง 4.3% สูงสุดในรอบ 8 เดือน ทำให้น่าจะมีแรงซื้อเข้ามาช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน นำโดยหุ้น PTT, PTTEP

อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศวันนี้ที่จะมีการชุมนุมทางการเมือง และติดตามรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งได้ประชุมเมื่อวันที่ 4-5 พ.ย. ที่ผ่านมา รวมถึงติดตามการปรับน้ำหนักการลงทุนของ MSCI ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 พ.ย.นี้

พร้อมให้แนวรับ 1,400-1,390 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420-1,433 จุด

 

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ