ภาคธุรกิจ จับตา ชุมนุม 19-20 ก.ย.ยืดเยื้อหรือไม่
เอกชนห่วงชุมนุม 14 ต.ค. กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน
การจัดงานสัมนาหอการค้าทั่วประเทศวันนี้ จัดขึ้นในหัวข้อไทยช่วยไทย คือไทยเท่ ซึ่งภายในงานได้มีการปาฐกถาพิเศษ การบรรยาย รวมถึงประชุมใหญ่ของหอการค้าจังหวัดที่มีการแลกเปลี่ยนกานทำงานช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยตอนนี้กำลังค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องเน้นไปที่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การกระจายรายได้ ป้องกันโควิด-19 ไม่ให้แพร่ระบาดระรอก 2 และผลักดันให้เปิดประเทศอย่างปลอดภัย เพราะประเทศไทยไม่สามารถปิดประเทศไปตลอดได้ รายได้จากท่องเที่ยวหายไปกว่า 2-3 ล้านล้านบาท มาตรการต่างๆของรัฐคงต้องเข้ามาช่วย ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2564 มองว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะดีขึ้นจากปีนี้ ข้อกังวลตอนนี้ก็อยู่ที่ภาคการส่งออกของประเทศไทย ที่ติดปัญหาต้นทุน การขาดแรงงาน และค่าเงินบาทแข็ง
สำหรับสถานการณ์ชุมนุมในปัจจุบัน นายกลินท์ ย้ำว่า ภาคเอกชนทั้งนักลงทุนไทยและต่างชาติ ต่างกังวลถึงเรื่องนี้ ว่าสถานการณ์เช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุน บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยต่างๆ จึงอยากให้ภาครัฐกับผู้ชุมนุม เร่งหาทางออกด้วยการเจรจาอย่างสันติวิธี
ขณะที่นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่า สถานการณ์การชุมนุมในปัจจุบัน ยังไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งหากยังไม่มีความรุนแรงปรากฎก็จะไม่ส่งผลกระทบรุนแรง แต่ต้องยอมรับว่าความกังวลใจของนักลงทุนยังมี จึงอยู่ทำให้เศรษฐกิจไทยโตได้ไม่เต็มที่ และหากยกระดับและมีความรุนแรงเมื่อใด ก็จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าทันที
ส่วนความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบัน ถือว่าปรับตัวดีขึ้น นายธนวรรธน์ ย้ำว่าในช่วงไตรมาส 4 เราน่าจะได้เห็นตัวเลขเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น อยู่ที่ติดลบ 4-5% ความเชื่อมั่นนักธุรกิจจากหอการค้าทั่วประเทศก็ปรับตัวดีขึ้น ทั้ง ภาคยานยนต์ เครื่องจักรกลการเกษตร เริ่มรับรู้ได้ว่าต่างจังหวัดมีกำลังซื้อมากขึ้น โดยเฉพาะจากมาตรการ "คนละครึ่ง" และราคาพืชผลการเกษตรปรับตัวดีขึ้น สัญญาณการส่งออกดีขึ้น น่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยทั้งปีขยายตัวติดลบต่ำกว่าการประเมินที่ -6%
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีหน้า ทั้งหอการค้าและมหาวิทยาลัยหอการค้า ก็มีการประเมินตรงกันครับว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้น แนวโน้มวัคซีนเริ่มมีความชัดเจน รวมถึงโอกาสการทำทราเวลบับเบิ้ลของประเทศไทย จึงเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถกลับมาเติบโตเป็นบวกได้ราว 4% ในปี 2564