หุ้นไทยวันนี้ (6 ม.ค.2564) ปิดการซื้อขายลดลง 14.29 จุด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หุ้นไทยวันนี้ (6 ม.ค.2564) ปิดการซื้อขายลดลง 14.29 จุด ที่ดัชนี 1,492.36 จุด (-0.95%) มูลค่าการซื้อขาย 142,327.03 ล้านบาท

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ผันผวนจาก Sentiment ฝั่งสหรัฐฯที่ไม่ดี จากความกังวลการเกิด Blue Wave จากนโยบายการขึ้นภาษีในสหรัฐฯ ทำให้เป็นลบต่อตลาดสหรัฐฯ แต่ที่จริงน่าจะเป็นบวกต่อตลาดในภูมิภาคอื่น

ธนาคารโลก เตือน ประเทศกำลังพัฒนาเผชิญภาระหนี้เพิ่มขึ้นจากการระบาดโควิด

ส่วนตลาดบ้านเราก็เผชิญแรงขายทำกำไรออกมาในหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรง อย่างหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า ที่ขึ้นไปเร็วและแรง ส่วนหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ก็ลดช่วงบวกลงมาด้วย นอกจากนี้ดัชนี SET ได้ปรับขึ้นมาเหนือ 1,500 จุด ก็ถือว่าไม่ถูกแล้ว ทำให้มีโอกาสที่จะพักตัวลงมาก่อน อย่างไรก็ดีหุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มสื่อสารมีโอกาสกลับมาเล่นกันได้อีกหลังจากที่ราคาหุ้นยัง Laggard

อัปเดต สถานการณ์โควิด-19 ล่าสุด 6 ม.ค. 2564

ศบค.ห่วง ติดเชื้อในประเทศพุ่ง 250 แนวโน้มป่วยหนักเพิ่ม เสียชีวิต อีก 1 เปิดไทม์ไลน์ อาการวิกฤต

หุ้นไทยวันนี้ (6 ม.ค.2564) ปิดการซื้อขายเช้า เพิ่มขึ้น +3.11 จุด  (+0.21%) มูลค่าการซื้อขาย 72,927.60 ล้านบาท (12.45 น.) 

หุ้นไทยวันนี้ (6 ม.ค.2564) เปิดการซื้อขาย 1,510.56 จุด เพิ่มขึ้น +3.91 จุด  (+0.26%) มูลค่าการซื้อขาย 6,889.37 ล้านบาท (10.00 น.)  มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้แต่อาจเผชิญแรงขายทำกำไรระหว่างทาง เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศยังเพิ่มขึ้นมาก

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้แต่อาจเผชิญแรงขายทำกำไรระหว่างทาง เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศยังเพิ่มขึ้นมาก และ 2 วันที่ผ่านมาดัชนีฯขึ้นไปมาก ซึ่งเป็นการเล่นกระจุกตัวบาง Sector ทำให้ต้องระวัง และหุ้น DELTA ก็เข้าเกณฑ์ Cash Balance ด้วย อีกทั้งตอนนี้แม้จะไม่มีล็อกดาวน์แต่ในอนาคตก็ยังมีความไม่แน่นอน

ราคาทองวันนี้ – 6 ม.ค. 64 ปรับราคา 6 ครั้ง

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ย่อตัวลงเล็กน้อย และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สติดลบกว่า 100 จุด หลังผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารอบสองในรัฐจอร์เจีย ตอนนี้พรรคเดโมแครตนำมา 2 คน ซึ่งก็ทำให้มีความกังวลเกี่ยวกับมาตรการเก็บภาษีฯที่อาจถูกผลักดันให้เกิดขึ้นได้ง่าย และอาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นได้ อย่างไรก็ดีวันนี้ทางสภาคองเกรสจะมีการรับรองนายโจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งก็น่าจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตดี และหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมี, กลุ่มขนส่ง และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์น่าจะเติบโตดีด้วย

นักวิชาการ ติง “บิ๊กตู่” สื่อสารล้มเหลว ประชาชนสับสน

นอกจากนี้ ที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติคงกำลังการผลิตน้ำมันที่ระดับ 7.2 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นเดือนก.พ. ขณะที่ซาอุดีอาระเบียรับอาสาที่จะปรับลดกำลังการผลิตลงอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ซึ่งคาดว่าหุ้น PTTEP จะรีบาวด์ได้ดีในวันนี้ และคาดว่าตลาดฯน่าจะได้รับแรงหนุนจากกลุ่ม Commodity ด้วย

ส่วนบ้านเราจะต้องจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยมองว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงหรือไม่ และถ้ายังขยับขึ้นทางการจะควบคุมได้อยู่หรือเปล่า สำหรับหุ้น DELTA แม้ว่าจะติดเกณฑ์ Cash Balance ก็คงจะมีผลต่อตลาดไม่มาก เพราะหุ้นตัวนี้ราคาแพงนักลงทุนรายย่อยคงจะไม่ได้เล่นกัน

พร้อมให้แนวรับ 1,492-1,480 จุด ส่วนแนวต้าน 1,513 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหลังราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารอบสองในรัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นรัฐสมรภูมิที่จะชี้ชะตาว่าพรรคใดจะครองอำนาจในสภาคองเกรสสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,391.60 จุด เพิ่มขึ้น 167.71 จุด หรือ +0.55% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,726.86 จุด เพิ่มขึ้น 26.21 จุด หรือ +0.71% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,818.96 จุด เพิ่มขึ้น 120.51 จุด หรือ +0.95%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 5% เมื่อคืนนี้ (5 ม.ค.) ขานรับที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) มีมติคงกำลังการผลิตในปัจจุบันไปจนถึงสิ้นเดือนก.พ. ขณะที่ซาอุดีอาระเบียเต็มใจที่จะปรับลดกำลังการผลิตอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในอิหร่าน ซึ่งรวมถึงการที่อิหร่านยึดเรือบรรทุกสารเคมีของเกาหลีใต้นอกน่านน้ำของโอมาน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 2.31 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 49.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 2.51 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 53.60 ดอลลาร์/บาร์เรล

เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 29.91 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 29.96 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก

"บาทแข็งค่าจากเย็นวานนี้ตามภูมิภาคหลังดอลลาร์อ่อนค่า แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 29.85-30.00 บาท/ดอลลาร์

โดยวันนี้ตลาดรอดูผลการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกของรัฐจอร์เจีย และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ