นักวิชาการทีดีอาร์ไอ วิเคราะห์มาตรการ ‘ชิมช้อปใช้’ กระตุ้นศก.จริงหรือ...
อัปเดต สถานการณ์โควิด-19 ล่าสุด 13 ม.ค. 2564
นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ กล่าวถึง มาตรการเยียวยา “เราชนะ” ที่รัฐบาลเตรียมแจกเงินให้เปล่ากลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิดรอบใหม่ เป็นจำนวนเงิน 3,500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน ว่า มีข้อดี คือ เกณฑ์ในการคัดเลือกผู้ได้สิทธิ์มาตรการนี้ เป็นการคัดผู้ที่ไม่ควรได้รับสิทธิ์ออก เช่น กลุ่มข้าราชการ กลุ่มแรงงานในระบบประกันสังคม ทำให้การช่วยเหลือจะรวดเร็ว ง่าย และมีผู้ได้เงินในจำนวนมากขึ้น ประมาณการณ์คร่าวๆจากเงื่อนไขที่รัฐบาลออกมาจะมีผู้ได้สิทธิ์ราว 30-40 ล้านคน
ส่วนข้อเสีย คือ ผู้รับสิทธิ์ได้เงินในจำนวนที่น้อยเกินไปเมื่อเทียบรายได้ขั้นต่ำ และควรเพิ่มระยะเวลาการจ่ายเงินให้เปล่า เป็นอย่างน้อยเป็น 3 เดือน ให้สอดคล้องกับผลกระทบของการระบาดโควิดรอบใหม่
ขณะเดียวกัน นักวิชาการรายนี้ เสริมว่า ยังมีคนบางกลุ่มที่ตกหล่นเรื่องการได้รับความช่วยเหลือ อย่างที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคม มีมาตรการออกมาเยียวยา ลูกจ้างในระบบประกันสังคมที่ขาดรายได้ แต่ก็ยังมีผู้ประกอบการบางประเภทเงื่อนไขไม่เข้าเกณฑ์ เพราะคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดไม่ได้ประกาศปิดธุรกิจ จึงอยากให้รัฐบาลให้ความช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มแก่ธุรกิจท่องเที่ยวหรือประเภทธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดที่มีนโยบายงดการเดินทาง เช่น การช่วยจ่ายเงินเดือนพนักงานตามระยะเวลาที่เหมาะสม โดยเน้นย้ำต้องช่วยแก่ธุรกิจที่มีการเสียภาษีอย่างถูกต้องเท่านั้น
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เห็นด้วยกับการออกมาตรการ “เราชนะ” เพราะตอบโจทย์และสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาได้ตรงประเด็น ด้วยการโอนเงินตรงเข้าไปให้ประชาชน ประเมินว่าโควิด-19 จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจประมาณ 3 เดือน กรอบของความเสียหายจะอยู่ที่ราว 1.5 - 2 แสนล้านบาท แล้วน่าจะคลี่คลายได้ในช่วงมีนาคม 2564 แต่หากยืดเยื้อไปกว่านี้ก็อาจสูญเสียกว่า 3-4 แสนล้านบาท ทิศทางของเศรษฐกิจจึงซึมตัวลง ทำให้มีการปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจจาก 2.8% เหลือ 2.2%
สำหรับมาตรการเงินเยียวยา 3,500 เป็นเวลา 2 เดือน หากตัวเลขผู้ได้รับสิทธิ์สูงถึง 30 ล้านคน จะมีเม็ดเงินถึง 2.1 แสนล้านบาท ก็จะมีโอกาสช่วยให้เศรษฐกิจกลับไปขยายตัวเกิน 2.5% ได้
ทั้งนี้ นายธนวรรธน์ ย้ำว่าเห็นด้วยหากรัฐบาลจะต่ออายุ มาตรการคนละครึ่ง กับ มาตรการเราเที่ยวด้วยกัน ออกไปให้ถึงไตรมาส 3-4 เนื่องจากจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง และยังเป็นมาตรการที่ประสบความสำเร็จเดิมอยู่แล้ว
ด้านภาคเอกชน อย่าง นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มองว่า การที่รัฐบาลเตรียมแจกเงินให้เปล่า 3,500 บาท 2 เดือน ให้แก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ก็เป็นการช่วยการกระตุ้นกำลังซื้อฝั่งผู้บริโภคได้ในระยะสั้น โดยภาคเอกชน เสริมว่า หากจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างแบบภาพรวม ต้องเร่งระงับการระบาดโดยเร็วที่สุด เพราะมีธุรกิจหลายประเภทที่กำลังวิกฤตหนัก เช่น เอนเตอร์เทนเมนท์ ฟิตเนส นวดแผนไทย รวมถึง ภาคการท่องเที่ยว
