นวดสปากระทบหนักปิดกิจการแล้ว 11,820 ร้าน
กทม.เล็งคลายล็อก อนุญาตเปิดกิจการ ยอดโควิดกรุงเทพฯขยับรวม 619 ราย 2 เขตปลอดเชื้อ
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานนวด “ร้านธาราวดี นวดเพื่อสุขภาพ” กลุ่มนี้ ช่วยกันเปิดร้าน และจัดอุปกรณ์ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ทั้งเครื่องวัดอุณหภูมิ สเปรย์แอลกอฮอล์ และแผ่นคิวอาร์โค้ดไทยชนะ สำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการ ในการเปิดร้านวันแรก ตามคำสั่งกรุงเทพมหานคร
นอกจากมาตรการป้องกัน โควิด-19 ขั้นพื้นฐานแล้ว เจ้าของร้านบอกว่า การใช้บริการทุกครั้งจะจัดเตียงเว้นระยะห่าง ปิดม่านกั้น ลูกค้าและพนักงานต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกคน นอกจากนั้นจะต้องไม่มีการพูดคุยในระหว่างการนวดเด็ดขาด
สำหรับการเปิดกิจการวันแรก ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ 3คน แม้จะจำนวนไม่มากนัก แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีรายได้เข้าร้าน น.ส.ปราณิสา สุดวิเศษ ยอมรับว่า การได้เปิดรอบนี้ ทำให้เธอกลับมามีความหวัง หลังจากคิดว่า อาจต้องปิดกิจการถาวร จากการแบกรับภาระค่าใช้จ่ายจากการระบาดของโควิด 2 ระลอกที่ผ่านมา โดยหากมีคำสั่งปิดอีกครั้ง เธอเชื่อว่า รอบนี้ร้านของเธอไม่รอดแน่
ขณะที่ร้านนวดบางแห่งตัดสินใจปิดกิจการถาวร เนื่องจากแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว อย่างที่ร้านจารวีนวดแผนไทย เจ้าของร้านและลูกจ้างช่วยกันขนที่นอน หมอน และอุปกรณ์สำหรับนวดแผนไทยออกจากร้าน พร้อมติดประกาศเซ้งตึกให้ผู้ที่สนใจมาเช่าพื้นที่ต่อ
เจ้าของร้านบอกว่า เหตุผลที่ตัดสินใจไม่สู้ต่อ เพราะแม้ว่ารัฐบาลจะคลายล็อก แต่การปิดกิจการ 2 ระลอกตามสถานการณ์ระบาดของโควิด ทำให้ตอนนี้ขาดทุนกว่า 5 ล้านบาท และยังต้องแบกรับรายจ่ายของร้านทั้ง ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างพนักงาน รวมถึงอุปกรณ์การนวดต่างๆ มากกว่า 2 แสนบาทต่อเดือน อีกทั้งตอนนี้เจ้าของตึกปรับเพิ่มค่าเช่าขึ้นอีก10% จากเดิม ค่าเช่าตึกเดือนละ 70,000 บาท ตอนนี้ต้องจ่าย 77,000 บาท ในขณะที่รายได้เกือบจะเป็นศูนย์ เพราะกลุ่มลูกค้าร้านนวดของตัวเองเป็นนักท่องเที่ยวจีน ที่รับมาจากบริษัททัวร์ทั้งหมด และก็ยังไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนรัฐบาลถึงจะเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเหมือนเดิม จึงต้องอยู่ในสภาพจำใจ ต้องปิดกิจการเพื่อไม่ให้เจ็บตัวหนัก จากหนี้สินที่จะเพิ่มขึ้นนับจากนี้
อีกหนึ่งกิจการที่กรุงเทพฯมีคำคลายล็อกให้กลับมาเปิดได้ คือ สถานที่ออกกำลังกาย อย่างฟิตเนส ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ พบว่าช่วงเช้ายังไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ โดยเจ้าของร้านจะใช้ช่วงนี้ในการทำความสะอาด โดยการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อและเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ออกกำลังกาย รวมถึงมีการใช้เครื่องอบโอโซนที่ใช้สำหรับฆ่าเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะด้วย
สำหรับลูกค้าที่จะเข้าใช้บริการ เจ้าของร้านยอมรับว่า ลูกค้ามักถอดหน้ากากอนามัยในระหว่างออกกำลังกายเนื่องจากหายใจไม่สะดวก ซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยง เมื่อได้กลับมาเปิดทางร้านก็จะพยายามลดความเสี่ยงให้มากที่สุด และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิดอย่างเคร่งครัด เพราะที่ผ่านมาถือว่าได้รับผลกระทบหนักจากการถูกคำสั่งปิด
เจ้าของร้าน “Fair Fitness” บอกว่า หลังจากเกิดวิกฤตโควิด-19 ลูกค้าลดลงกว่าร้อยละ 70 ทำให้ขาดทุนหลายแสนบาท แต่ขณะเดียวกันแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการอย่างสมเหตุสมผลจากรัฐบาล ซึ่งนั่นหมายความว่า อาจจะทำให้กิจการเล็กๆล้มหายตายจากไปอีกจำนวนหนึ่ง
