หุ้นไทยวันนี้ (26 ม.ค.) ปิดช่วงเเย็นนนี้ที่ระดับ 1,512.83 จุด เพิ่มขึ้น +11.21 จุด สวนทางตลาดเอเชีย


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หุ้นไทยวันนี้ (26 ม.ค.) ปิดช่วงเเย็นนนี้ที่ระดับ 1,512.83 จุด เพิ่มขึ้น +11.21 จุด (+0.75%) มูลค่าการซื้อขายราว 87,825.28 ล้านบาท

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นมาได้แข็งแกร่ง เช่นเดียวกับตลาดหุ้นยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ต่างฟื้นตัวขึ้นมาจากวานนี้ ท่ามกลาง Sentiment นอกประเทศที่ไม่ดีมากนัก โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ติดลบกัน อาจจะมาจากที่จีนมีการดูดสภาพคล่องบางส่วนกลับไป หลังจากที่มองว่าราคาสินทรัพย์ปรับตัวขึ้นสูงกลัวจะเกิดฟองสบู่ แต่ทั้งนี้ยังต้องจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีขึ้นในวันที่ 26-27 ม.ค.นี้ จะส่งสัญญาณอย่างไรออกมาบ้าง อาจจะช่วยหักล้างความกังวลส่วนนี้ได้บ้าง

รวมมาตรการด้านภาษีและค่าธรรมเนียมเพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด–19 ในปี 2564 

ส่วนตลาดบ้านเราหลังจากที่ได้เริ่มมีการเปิดจองซื้อหุ้น OR แล้วก็ทำให้ผ่อนคลายเรื่องการปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อไปจองซื้อ หลังนักลงทุนบางส่วนได้เริ่มจองซื้อ OR ไปบ้างแล้ว ตลาดฯจึงน่าจะได้รับแรงซื้อกลับเข้ามาได้บ้าง

นอกจากนี้ แต่ละตลาดต่างก็มีปัจจัยเฉพาะตัวที่จะต้องติดตามในเรื่องการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของแต่ละตลาด ซึ่งตลาดบ้านเราก็ให้ติดตามการประกาศงบฯของ SCC, PTTEP, DTAC เป็นต้น และให้ติดตามการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่ในวันศุกร์นี้ (29 ม.ค.) ว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างไรบ้าง

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (27 ม.ค.) นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์หลังยืนได้เหนือ 1,500 จุด พร้อมให้แนวรับ 1,490-1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,515-1,520 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

EA มูลค่าการซื้อขาย 5,109.11 ล้านบาท ปิดที่ 68.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท

SCGP มูลค่าการซื้อขาย 4,312.69 ล้านบาท ปิดที่ 46.75 บาท ลดลง 2.25 บาท

KTC มูลค่าการซื้อขาย 2,967.11 ล้านบาท ปิดที่ 68.25 บาท เพิ่มขึ้น 4.25 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,790.82 ล้านบาท ปิดที่ 127.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

CBG มูลค่าการซื้อขาย 2,776.99 ล้านบาท ปิดที่ 144.50 บาท ลดลง 4.00 บาท

หุ้นไทยวันนี้  (26 ม.ค.) ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,497.05 จุด ลดลง 4.57 จุด กังวลเศรษฐกิจโลกฟื้นช้า ข้อสงสัยในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไบเดน จากสมาชิกสภาคองเกรส

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบ จากความกังวลมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ฯจะมีความล่าช้า หลังจากที่สมาชิกสภาคองเกรสหลายรายทั้งจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ และตั้งข้อสงสัยถึงความจำเป็นของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ และต้องการจะให้ลดขนาดวงเงินด้วย ส่งผลให้มีแรงขายออกมา

ข้อมูลสำคัญหลัง โควิด-19 ลามข้ามปี ติดเชื้อแล้วกว่า 100,000,000 คนทั่วโลก

นอกจากนี้ ทางฝั่งยุโรปก็มีการล็อกดาวน์เข้มขึ้นหลังการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยังน่าจะเป็นห่วง ส่งผลให้มองการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกอาจมีความล่าช้า ส่วนบ้านเราก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จ.สมุทรสาครกว่า 900 รายเมื่อวานนี้ ทำให้คนยังมีความกังวลอยู่

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 26-27 ม.ค.นี้ ซึ่งตลาดฯคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะตัวใหญ่อย่าง SCC, PTTEP เป็นต้น

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายชัยยศ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสปรับตัวลง โดยมีแนวรับ 1,480-1,490 จุด ส่วนแนวต้าน 1,500 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

ร้องสอบขายหุ้น OR ส่อเอื้อนายทุน

SCGP     มูลค่าการซื้อขาย   2,459.43 ล้านบาท  ปิดที่   47.00 บาท  ลดลง    2.00 บาท

CBG      มูลค่าการซื้อขาย   2,057.61 ล้านบาท  ปิดที่  146.00 บาท  ลดลง    2.50 บาท

PTT      มูลค่าการซื้อขาย   1,323.36 ล้านบาท  ปิดที่   39.75 บาท  ลดลง    0.25 บาท

EA        มูลค่าการซื้อขาย 1,143.44 ล้านบาท ปิดที่ 65.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

CPALL    มูลค่าการซื้อขาย     952.71 ล้านบาท  ปิดที่   58.25 บาท  ลดลง   

หุ้นไทยวันนี้  (26 ม.ค.) เปิดการซื้อขายที่ระดับ  คาดแกว่งไซด์เวย์ คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ติดตามประชุมเฟด ส่วนบ้านเราติดตามประชุม ครม.

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวไซด์เวย์ในแดนลบเล็กน้อย แม้วุฒิสภาสหรัฐมีมติเห็นชอบให้นางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่แล้ว แต่ทั้งนี้ ตลาดต่างรอปัจจัยใหม่เข้ามา แต่ก็ยังมี Sentiment ดีจากที่ดัชนีฯวานนี้สามารถยืนเหนือ 1,500 จุด ได้

ราคาทองวันนี้ –26 ม.ค. 64 ปรับราคา 5 ครั้ง

ก.คลัง กู้อีก 6 หมื่นล้าน ใช้แจก "เราชนะ" ชี้ ถ้าไม่กู้ ก็ไม่มีเงินเยียวยา

ทั้งนี้ ตลาดฯอาจมีแรงกดดันจากที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครกว่า 900 คนเมื่อวานนี้ จากการค้นหาเชิงรุก ซึ่งเชื่อว่าวันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อน่าจะชะลอลงได้ อย่างไรก็ดีให้ติดตามการประชุมเฟด ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26-27 ม.ค.นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย พร้อมให้ติดตามทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐจะออกมาอย่างไรบ้าง ส่วนบ้านเราให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป โดยให้ติดตามงบฯของ SCC, PTTEP ที่จะประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ และวันนี้ให้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีการผ่อนคลายการคุมเข้มการแพร่ระบาดอย่างไรบ้าง

พร้อมให้แนวรับ 1,492 จุด ส่วนแนวต้าน 1,515 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการออกมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,960.00 จุด ลดลง 36.98 จุด หรือ -0.12% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,855.36 จุด เพิ่มขึ้น 13.89 จุด หรือ +0.36% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,635.99 จุด เพิ่มขึ้น 92.93 จุด หรือ +0.69%

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 13.27 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 125.99 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 266.16 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า อิรักมีแผนที่จะปรับลดการผลิตน้ำมันในเดือนม.ค.และก.พ. และข่าวการระงับส่งออกน้ำมันที่ท่าเรือหลายแห่งในลิเบีย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพุธนี้

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 55.88 ดอลลาร์/บาร์เรล

เงินบาทเปิด 29.99 ทรงตัวจากวานนี้แม้ดอลล์แข็ง แนวโน้มแกว่งแคบในกรอบ 29.95-30.05

PR-โปรแกรมผลบอล-2_B PR-โปรแกรมผลบอล-2_B
TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ