น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร การโทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีสายสื่อสารบริเวณ ซอยวิภาวดี 42 ห้อยลงมารกรุงรังเป็นอันตรายกับประชาชนว่า จากการสอบถามไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบทราบว่ากำลังดำเนินการเคลื่อนย้าย ซึ่งกมธ.ดีอีเอส ต้องตำหนิการดำเนินนี้ที่ปล่อยให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชน เพราะที่ผ่านมาได้มีการกำชับให้จัดระเบียบสายสื่อสารให้เรียบร้อยแล้ว และนี่คือกรุงเทพฯที่เป็นเมืองหลวงของประเทศ เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรที่จะเกิดขึ้นแล้ว การปรับปรุงอะไรควรทำให้เป็นระบบและเกิดความเรียบร้อย ปลอดภัยต่อประชาชนผู้อยู่อาศัยและสัญจรไปมา ควรมีการกั้นบริเวณให้เรียบร้อยและต้องมีกำหนดระยะเวลาว่าจะเสร็จเมื่อใด ไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนต้องระมัดระวังกันเอง ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะนี้ก็เกิดการสูญเสียชีวิตมาแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อนนี้เอง ที่อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
“กมธ.ดีอีเอส” ห่วง ไฟไหม้สายสื่อสาร เร่งติดตามนำสายลงดิน
ทั้งนี้การประชุมกมธ.สัปดาห์นี้ เราจะการเชิญ การไฟฟ้านครหลวง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รวมทั้ง ตัวแทนจาก กทม. มาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีแผนการจัดระเบียบสายสื่อสารอยู่แล้ว หลังจากปีที่ผ่านมาได้มีการจัดระเบียบสายสื่อสารไปบ้างแล้วในหลายพื้นที่ แต่ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังมีปัญหา เช่น กรณีล่าสุดที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ที่ชายขี่รถจักรยานยนต์ไปเกี่ยวสายโทรศัพท์ จนรถเสียหลักล้มจนถูกรถยนต์ที่ขับตามมาทับจนเสียชีวิต
อย่างไรก็ตามกมธ.ไม่อยากให้เกิดความสูญเสียแบบนี้อีก เรื่องนี้เป็นปัญหาเรื้อรังมานาน เราต้องแก้ไขให้หมดสิ้นไปให้ได้ และเราจะเร่งการสำรวจและแก้ไขในส่วนของสายที่ห้อยลงมาเกะกะก่อนอย่างเร่งด่วน จากนั้นต้องทำตามแผนการจัดระเบียบเพื่อให้ประชาชนเกิดความปลอดภัยในชีวิตมากที่สุด เรื่องนี้ไม่ใช่ว่ามีกระแสข่าวแล้วเราถึงมาตื่นตัว กมธ.ดีอีเอสได้เน้นย้ำในเรื่องนี้มานานแล้ว ก็หวังว่าในครั้งนี้เราจะสามารถเร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการให้เสร็จสมบูรณ์ในทุกพื้นที่
“กมธ.ดีอีเอส” จ่อเชิญ “กสทช.” แจง เสาส่งสัญญาณมือถือ ส่งผลต่อสุขภาพประชาชนหรือไม่
