เรื่องควรรู้ ก่อนจอง หุ้น OR หุ้น IPO มหาชน แห่งปี
แห่จองหุ้น OR วันแรก ระบบ 3 แบงก์ใหญ่ล่ม
บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ (‘OR’) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 18 บาทต่อหุ้น
โดยนางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ โออาร์ เปิดเผยว่า การจองซื้อหุ้นสำหรับผู้จองซื้อในประเทศในครั้งนี้ โออาร์ เปิดให้มีระยะเวลานานเกือบ 10 วัน พบว่ามีผู้จองซื้อรายย่อยจองซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายหุ้น 3 ธนาคาร ทั้งช่องทางการจองซื้อที่สาขาและช่องทางออนไลน์รวมกว่า 530,000 รายการ นับว่าเป็นการทำรายการจองซื้อหุ้นที่สูงที่สุด
โดยการจัดสรรหุ้นสำหรับผู้จองซื้อรายย่อยนั้นจะดำเนินการโดยใช้วิธี Small Lot First เป็นวิธีจัดสรรหุ้นให้แก่นักลงทุนทุกคนที่ต้องการอย่างทั่วถึง โดยในรอบแรกจัดสรรที่กำหนดจองซื้อขั้นต่ำ ซึ่งทุกคนจะได้หุ้นตามจำนวนขั้นต่ำ 300 หุ้น และในรอบถัด ๆ ไป ผู้จองซื้อทุกคนได้รับการจัดสรรเพิ่มครั้งละ 100 หุ้นจนหุ้นหมด ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ของ บริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด (บริษัทย่อยของตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย)
" มูลค่าเสนอขายหุ้น OR ในครั้งนี้ นับเป็นหุ้น IPO ที่มีมูลค่าสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของตลาดหุ้นไทย และคาดว่าจะได้รับการจัดเข้าไปรวมอยู่ในดัชนี SET50 และ SET100 ด้วยเกณฑ์ Fast-track ภายใน 3 วันทำการนับจากวันที่เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก "
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้จองซื้อรายย่อยที่จองผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่ายหุ้นทั้ง 3 ธนาคาร สามารถตรวจสอบผลการจัดสรรหุ้น ได้ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไปที่ www.settrade.com ส่วนผู้ถือหุ้นของ ‘PTT’ เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้น OR ในครั้งนี้ สามารถตรวจสอบผลการจัดสรรหุ้น ได้ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป ที่ www.kasikornbank.com/kmyinvest
ส่วนผู้จองซื้อที่ไม่ได้รับการจัดสรรหุ้นเต็มตามจำนวนที่จองซื้อจะได้รับการคืนเงินในส่วนที่ไม่ได้รับการจัดสรรภายใน 7-10 วันทำการตามวิธีการที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน จะเริ่มทำการคืนเงินในส่วนที่ไม่ได้รับการจัดสรรนับแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564
ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นของ PTT เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้น ผู้จองซื้อรายย่อย และผู้ลงทุนกลุ่มต่างๆ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และหนังสือชี้ชวนของ OR ซึ่งได้ยื่นไว้แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ได้ที่ www.sec.or.th และทางเว็บไซต์ของ OR
หมายเหตุ : ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน
ด้าน ธนาคารกรุงเทพ ระบุหลังเปิดช่องทางให้จองซื้อหุ้น OR ทั้งดิจิทัลแพลตฟอร์มและผ่านสาขา ได้รับกระแสตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี กว่า 90% จองซื้อหลักทรัพย์ผ่านช่องทางโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ และ กว่า 80% เป็นนักลงทุนรายใหม่
โดย นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารกรุงเทพได้เป็นหนึ่งในช่องทางการจองซื้อหุ้นสามัญ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ ‘OR’ ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) โดยได้เปิดให้บริการจองซื้อผ่าน 2 ช่องทาง คือ ผ่านฟีเจอร์ใหม่ “จองซื้อหลักทรัพย์” ด้วยโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ และจองซื้อผ่านธนาคารกรุงเทพทุกสาขาทั่วประเทศ (ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2564 ถึงเวลา 12.00 น. (เที่ยง) ของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564) ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชน รวมถึงนักลงทุนทั้งขาประจำและผู้ลงทุนรายใหม่เข้าร่วมจองซื้อหุ้นสามัญ ‘OR’ ผ่านทั้ง 2 ช่องทาง
พบว่า มีลูกค้านักลงทุนหน้าใหม่ที่ยังไม่เคยทำธุรกรรมการจองซื้อหลักทรัพย์กับธนาคารมาก่อนเข้ามาอีกจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งกว่า 90% ของลูกค้าที่ทำการจองซื้อหลักทรัพย์เข้ามา เลือกจองผ่านฟีเจอร์ใหม่อย่าง “จองซื้อหลักทรัพย์” ของช่องทางโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ
ขณะเดียวกัน กว่า 80% เป็นลูกค้าที่ใช้บริการโมบายแบงก์กิ้งจากธนาคารกรุงเทพเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ยังไม่เคยทำธุรกรรมจองซื้อหลักทรัพย์มาก่อน
สำหรับลูกค้านักลงทุนรายย่อยที่ทำการจองซื้อหลักทรัพย์ OR กับทางธนาคารไว้ สามารถตรวจสอบผลการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน OR ได้ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. 64 เป็นต้นไปที่ www.settrade.com [https://wwwa2.settrade.com/brokerpage/IPO/automatedRandom/OR/viewrandom.jsp]
สำหรับผู้ลงทุนที่ได้รับจัดสรรหุ้นไม่ครบตามจำนวนที่จองซื้อ หรือไม่ได้รับจัดสรร และ/หรือราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่าราคาที่ผู้ลงทุนได้ชำระไว้ ธนาคารจะดำเนินการคืนเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน OR ตามจำนวนเงินส่วนต่าง โดยใช้วิธีการคืนเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ OR ที่ผู้ลงทุนระบุไว้ในใบจองซื้อ หรือโมบายแบงก์กิ้งของธนาคาร โดยมีรายละเอียด ดังนี้
• กรณีรับเงินเข้าบัญชี อย่างช้าที่สุดภายในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564
• กรณีรับเป็นเช็ค อย่างช้าที่สุดภายในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564