กมธ.คมนาคม ชี้ กทม.คิดค่าโดยสาร รถไฟฟ้าสายสีเขียว 104 บาท ซ้ำเติมประชาชน
“ศักดิ์สยาม” เชื่อ ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ต่ำกว่า 65 บาทแน่นอน
จากกรณีการต่อสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ยังคงยืดเยื้อมากว่า 1 ปี ล่าสุด นายสุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยนโยบายด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI เปิดเผยว่า ปัญหาค่าโดยสารรถไฟฟ้าในประเทศไทย คือการคิดราคาแยกกันในแต่ละเส้นทาง ราคาไม่ได้ถูกกำหนดเป็นโครงข่าย แม้รัฐบาลจะกำหนดเพดานค่าโดยสารสูงสุดไว้ระดับหนึ่ง
แต่ในเชิงปฎิบัติแล้ว การเดินทางของประชาชนต้องผ่านรถไฟฟ้าหลายสาย ซึ่งต้นเหตุล้วนมาจากรูปแบบของสัญญสสัมปทานแยกจากกันแต่ละโครงการไม่เอื้อต่อการเชื่อมค่าโดยสาร และเงื่อนไขในสัมปทานก็ต่างกัน ส่งผลให้เกิดการคิดค่าแรกเข้าซ้ำซ้อนใน
ตัวอย่าง เช่น กรณีไม่มีการยกเว้นค่าแรกเข้าเลย ประชาชนเดินทางจากพระราม 9 ไปมีนบุรี ต้องผ่านรถไฟฟ้า 3 สาย สีน้ำเงิน สีเขียว และสีชมพู ค่าโดยรวมสูงถึง 109 บาท อีกกรณีจากตลาดบางใหญ่เดินทางมาสยาม ค่าโดยสารอยู่ที่ 107 บาท ซึ่งสูงกว่าค่าโดยสารรถตู้ถึงเท่าตัว
โดย นายสุเมธ กล่าวต่อว่า ปัญหาของไทยคือ ค่าแรกเข้าก็แพง และค่าเฉลี่ยต่อกิโลเมตรก็แพง เพราะต่อให้ยกเว้นค่าแรกเข้าทุกสายแล้ว ค่าโดยสารเฉลี่ยจาก พระราม 9 ไปมีนบุรีก็ยังอยู่ในระดับ 80 บาท จาก 109 บาท หรือสยาม ไปมีนบุรี อยู่ที่ 99 บาท จาก 113 บาท หากจะให้ลดลงรัฐก็ต้องชดเชยให้เอกชนอีก ตรงนี้จะเริ่มเกิดปัญหาอยู่ในอนาคต จึงเสนอให้รัฐยกเว้นค่าแรกเข้าทุกโครงการและกำหนดเพดานค่าโดยสารสูงสุด
อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า ต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานของแต่ละประเทศไม่เท่ากัน อย่างในกรุงเทพ ก็ให้เอกชนพัฒนาแทบทั้งหมด กลับกันกับสิงคโปร์ที่รัฐอุดหนุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด เพียงแต่ให้เอกชนมาเดินรถเท่านั้น ต้นทุนจึงอยู่ในระดับต่ำ
ขณะที่ วันนี้ (3 ก.พ.2564) ต้องจับตาการกระชุมคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่จะมีการประชุม เพื่อยกเลิกการประมูลสายสีส้ม โดยจะมีการพิจาณาเหตุผลระยะเวลาที่ศาลปกครองต้องใช้เวลาในการพิจารณาคดี โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการประมูลหลังจากขายซองเอกสารไปแล้ว
