UTA เริ่มเข้าพื้นที่พัฒนา "เมืองการบิน"


โดย PPTV Online

เผยแพร่




UTA เร่งกำหนดแนวรั้วชั่วคราวเขตการบิน หรือ Airside ให้เสร็จภายใน มีนาคมนี้ พร้อมตั้งสำนักงานบริหารโครงการช่วงการก่อสร้าง เตรียมก่อสร้างอาคารผู้โดยสารภายในปี 2565

“เมืองการบิน” ส่งมอบพื้นที่เสร็จสิ้นปีนี้

UTA เดินหน้าสร้าง “อู่ตะเภา-เมืองการบิน” ตามแผนแม่บท

นายโชคชัย ปัญญายงค์ ที่ปรึกษาพิเศษโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก  เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ระบุว่า ปัจจุบันการดำเนินการเตรียมการส่งมอบพื้นที่ยังคงเป็นไปตามแผนที่กำหนด ซึ่งภายในปี 2565 การดำเนินงานของโครงการของแต่ละกิจกรรมจะมีความชัดเจนในแง่ของการก่อสร้าง หลังจากงานถมดินและการปรับระดับพื้นที่ และมีการส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนร่วมลงทุนแล้ว โดยการก่อสร้างท่าอากาศยานระยะที่ 1 จะใช้ระยะเวลา 3 ปี จากนั้นขีดความสามารถของสนามบินอู่ตะเภาที่มีเอกชนดูแลจะพัฒนารุดหน้าเป็นอย่างมาก สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงถึง 15 ล้านคนต่อปี

ส่วนภาพรวมในปัจจุบันนับตั้งแต่มีการลงนามพัฒนาโครงการ ก็มีความคืบหน้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเตรียมการเพื่อก่อสร้างอาคารผู้โดยสารและส่วนอื่นๆ ที่จะดำเนินการในปี 2565 ทางบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ UTA ได้กำหนดแนวรั้วชั่วคราวเขตการบิน หรือ Airside ตามมาตรฐานที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยกำหนด เพื่อรักษาความปลอดภัยระหว่างพื้นที่ก่อสร้างและสนามบินอู่ตะเภา โดยคาดว่าการก่อสร้างรั้วจะแล้วเสร็จภายใน มีนาคม 2564 นี้

เปิดแผนแม่บท พัฒนาเมืองการบิน สู่ “ประตูเศรษฐกิจเอเชีย”

นอกจากนี้ยังมีการก่อตั้ง สำนักงานโครงการก่อสร้างสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกในบริเวณสนามบินอู่ตะเภา หรือ Site Office ซึ่งเป็นการเช่าอาคารสำนักงานการท่าอากาศยานอู่ตะเภาเดิม นำมาปรับปรุงอาคารเพื่อใช้เป็นสำนักงานบริหารโครงการช่วงการก่อสร้างแบบชั่วคราว

โดยนายโชคชัย ย้ำว่า สนามบินอู่ตะเภา จะเข้ามาเป็นศูนย์กลางเมืองการบินของภูมิภาคที่มีรูปลักษณ์และการให้บริการเป็นเลิศ เรียกว่าหนึ่งในสนามบินที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งขณะนี้ทาง UTA อยู่ระหว่างการคัดเลือกผู้ออกแบบที่ปรึกษาอิสระซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญซึ่งเป็นที่รู้จักในระดับสากล เพื่อมาร่วมงานในการวางผังสนามบินทั้งทางด้านสถาปัตย์และด้านการใช้ประโยชน์พื้นที่ให้มีความเหมาะสมทั้งทางด้านการให้บริการต่อผู้โดยสารและทางด้านการพาณิชย์

ขณะเดียวกันภาครัฐ ได้ดำเนินการจัดให้มีระบบสาธารณูปโภคเพื่อรองรับการพัฒนาแล้ว ได้มีการคัดเลือกบริษัทผู้ประกอบการเช่าที่ราชพัสดุเพื่อประกอบการให้บริการสาธารณูปโภคด้านต่างๆ  เพื่อเตรียมการก่อสร้างในปี 2564 ทั้ง ระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น และ ระบบประปาและบำบัดน้ำเสีย

ทั้งนี้ การให้บริการระบบเชื้อเพลิงอากาศยานนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการคัดเลือกเอกชน โดยอยู่ระหว่างการประเมินข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอและเข้าสู่กระบวนการเจรจาต่อไป คาดว่าจะทราบผลในเดือนเมษายน 2564

ติดปีก เมืองการบินภาคตะวันออก ด้วยพันธมิตรระดับโลก

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ