“ผ่าธุรกิจหุ้นมหาชน OR” หลังเทรดวันแรกเหนือจอง + 62.50%


โดย PPTV Online

เผยแพร่




“OR” หุ้นสุดฮอต เทรดวันแรกเหนือจอง +62.50% ตั้งเป้าขยาย คาเฟ่อเมซอน – เพิ่มสถานีชาร์จรถอีวี วาง เป้าหมาย EBITDA นอนออยล์ เติบโตเป็น 32-33% จากเดิม 25% ด้านนักวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” ด้วย 5 ปัจจัย

OR เคาะราคาสุดท้ายขายหุ้น IPO ที่ 18.00 บาท/หุ้น ยอดจองทะลุ กว่า 530,000 ราย

ทุกคนมีสิทธิเท่ากัน กรุงไทย ย้ำ ลำดับการจองซื้อหุ้น OR “ไม่มีผล” ต่อการจัดสรรหุ้น

OR หุ้นมหาชน ทำไมใคร ๆ ก็อยากจับจอง

เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือ โออาร์ (OR) ได้เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยทันทีที่เปิดตลาด ราคาพุ่งไปแตะ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.5 บาท จากราคาเสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) หุ้นละ 18 ใบบาท และ ปิดการซื้อขาย (11 ก.พ.) หลังเข้าเทรดวันแรก ที่  29.25 บาท เพิ่มขึ้น 11.25 บาท หรือ +62.50% มูลค่าซื้อขาย 47,360.57 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) 339,592.5 ล้านบาท

ถ้าไปดูธุรกิจของโออาร์ นอกจากน้ำมันแล้วตัวชูธงอีกอย่างหนึ่งคือ “ธุรกิจค้าปลีก” ทั้งในและต่างประเทศ ผ่านสถานีบริการน้ำมัน PTT Station กว่า 1,900 แห่งทั่วประเทศ ส่วนแบ่งการตลาด 38.9% ซึ่งที่คุ้นเคยกันดี เช่น ร้านกาแฟ Cafe Amezon กว่า 3,000 สาขา รวมถึงได้สิทธิอนุญาตดำเนินธุรกิจร้านค้าแบรนด์ เท็กซัส ชิคเก้น (Texas Chicken) และได้รับสิทธิมาสเตอร์แฟรนไชส์ของธุรกิจอาหารแบรนด์ ฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ

ซึ่งหากดูที่แผนการลงทุนในธุรกิจหลักทั้ง 3 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจน้ำมัน, ธุรกิจ Non oil (ค้าปลีกและบริการอื่น ๆ) และธุรกิจต่างประเทศ ภายใน 5 ปีนี้ แม้ว่าบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจน้ำมัน แต่การลงทุนในธุรกิจนอนออยล์ จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น

โดยวางเป้าหมาย EBITDA ของธุรกิจนอนออยล์ เติบโตเป็น 32-33% จากเดิม 25% และธุรกิจต่างประเทศเติบโตเป็น 13% จากเดิมราว 5% ขณะที่ธุรกิจน้ำมันจะปรับตัวลงมาเล็กน้อยเหลือ 52% จาก 68-69%

คุณจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ โออาร์ ถึงความสนใจของประชาชนในการเข้าจองซื้อหุ้น OR ด้วยระบบการจองแบบ Small Lot First กำหนดขั้นต่ำ 300 หุ้น หรือ 5,400 บาท มีประชาชนเข้าจองซื้อหุ้นมากถึง 480,000 กว่าคน เวลาการจองเกือบ 10 วัน ซึ่งนานสุดในประวัติศาสตร์ของการจำหน่ายหุ้น IPO ของตลาดทุนไทย

“การลงทุนใน OR เป็นไปตามคอนเซ็ปต์ด้าน OR แม้มองว่าเราเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ แต่มีโอกาสเติบโตอีกสูง ทั้งศักยภาพ ด้านแบรนด์ของสินค้า ที่เป็นทั้งน้ำมันตลาดค้าปลีก ตลาดพาณิชย์ และธุรกิจนอนออยล์”

คุณราชสุดา รังสิยากูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลยุทธ์องค์กร นวัตกรรมและความยั่งยืน โออาร์ กล่าวว่า  ภายในอีก 5 ปี  PTT Station จะเปิดใหม่ประมาณ 350 แห่ง รวมของเดิมเป็น 650 แห่ง ร้านคาเฟ่อเมซอน เปิดเพิ่ม 310 แห่ง รวมของเดิมเป็น 550 แห่ง ลักษณะการดำเนินธุรกิจเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบท้องถิ่น และธุรกิจขนาดเล็กของต่างประเทศ เข้ามาร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทฯ เหมือนในประเทศไทย

ในต่างประเทศ ได้นำคาเฟ่เมซอน และผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น  รุกตลาดประเทศจีนตอนใต้ ส่วนประเทศโอมาน ได้ให้สิทธิมาสเตอร์แฟรนไชส์ให้กับบริษัทน้ำมันแห่งชาติประเทศโอมาน ในการขยายคาเฟ่เมซอน ทั้งในและนอกสถานีบริการ

ขณะที่ รถยนต์ไฟฟ้า ตอนนี้ OR ให้บริการชาร์จไฟ EV Station จำนวน 25 แห่งในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station โดยวางแผนจะขยายในเส้นทางหลักทั่วประเทศ โดยจากผลการศึกษาพบว่า ปัจจุบันคนใช้บริการสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ใช้เวลา 20 นาที โดยเติมน้ำมัน 4-5นาที หลังจากนั้นเข้าห้องน้ำและซื้อกาแฟ ส่วนการชาร์ทรถ EV ใช้เวลาแค่ 20 นาทีก็เต็ม จึงไม่กระทบอัตราการเข้าใช้สถานีบริการน้ำมัน PTT Station

คุณพิจินต์ อภิวันทนาพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารการเงิน ระบุว่า กำไรหลักของบริษัทฯ มาจากธุรกิจน้ำมัน 68%  นอนออย 25 % ธุรกิจต่างประเทศ  5-6 % เงินที่ได้มาจากการระดมทุน IPO ครั้งนี้ มีแผนลงทุนในในอีก 5 ปี ข้างหน้า จำนวน 74,600 ล้านบาท  โดยรักษาการลงทุนในธุรกิจน้ำมัน เพราะเป็นแพลตฟอร์มของ

ธุรกิจนอนออยล์ที่ยังไม่เติบโต แต่สัดส่วนที่การลงทุนธุรกิจนอนออยล์ และธุรกิจในต่างประเทศจะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากธุรกิจนอนออยล์ให้มาร์จิ้นสูงกว่า ส่วนธุรกิจในต่างประเทศมีศักยภาพเติบโตสูง

สำหรับ โออาร์  ( OR )เข้าจดทะเบียนหลักทรัพย์ ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค ด้วยทุนจดทะเบียน 116,100 ล้านบาท จำนวน 11,610 ล้านหุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 10 บาท ต่อหุ้น  เสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก IPO จำนวน 2,610 ล้านหุ้น เคาะราคาหุ้นละ 18 บาท และจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment) 390 ล้านหุ้น รวมทั้งหมดเป็น 3,000 ล้านหุ้น โดยบริษัทมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินซึ่งยืมจาก บมจ.ปตท. (PTT) จำนวน 390 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าระดมทุนทั้งหมด 46,980 ล้านบาท โดยมียอดจองรายย่อยจำนวน 530,000 ราย สูงสุดเป็นประวัติการณ์

อย่างไรก็ตาม หุ้น OR ปิดการซื้อขาย (11 ก.พ.) หลังเข้าเทรดวันแรก ที่  29.25 บาท เพิ่มขึ้น 11.25 บาท (+62.50%) จากราคาขาย IPO 18.00 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 4.74 หมื่นล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 26.50 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 29.50 บาท และราคาลงต่ำสุด 22.10 บาท

ด้าน บทวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะนำ "ซื้อ" หุ้น บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ที่ราคาเป้าหมายปี 21F = 21.70 บาท (DCF method)   เพราะ

1. Valuation ไม่ถือว่าสูง เทียบกับการเติบโตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดทั้งธุรกิจ Oil และNon-oil

2. ธุรกิจทั้งในและต่างประเทศอยู่ใน growth cycle

3. สภาพการแข่งขันเอื้อต่อกลยุทธ์การเติบโตของ OR

4. คาดมีแรงหนุนการเติบโตจากธุรกิจในต่างประเทศ ที่การแย่งส่วนแบ่งตลาดเป็นเชิงรุกมากขึ้น

และ 5. คาดกำไรโตทุกปีใน 2021-23F เฉลี่ยราว 11% CAGR

ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เตรียมนำหลักทรัพย์ของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ (OR)  ซึ่งจดทะเบียนและเริ่มทำการซื้อขายวันแรกเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2564 เข้าคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ