MEA เดินหน้าส่งมอบเสาไฟ กันคลื่นชายฝั่ง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA ยังคงเดินหน้าส่งมอบเสาไฟจากทุกโครงการสายไฟฟ้าใต้ดิน สร้างแนวป้องกันคลื่นชายฝั่งป้อมพระจุลจอมเกล้า ฐานทัพเรือกรุงเทพ จ.สมุทรปราการ ฟื้นฟูธรรมชาติทางทะเลอย่างยั่งยืน ล่าสุดโครงการนี้ดำเนินถึงไหนแล้ว

กฟน.-ฐานทัพเรือกรุงเทพ “ปลูกป่า-ปักเสาไฟ” สร้างแนวป้องกันคลื่นทะเล

กฟน. จับมือฐานทัพเรือกรุงเทพฯ รวมพลังปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติฯ พร้อมปักเสาไฟสร้างแนวป้องกันคลื่น...

ที่ผ่านมา การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA ได้ร่วมมือกับฐานทัพเรือกรุงเทพ กองทัพเรือ ปรับปรุงและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนและการทำแนวป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง MEA’s Model อย่างต่อเนื่อง ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า ฐานทัพเรือกรุงเทพ จ.สมุทรปราการ ด้วยการนำเสาไฟฟ้าที่รื้อถอนจากโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินในโครงการต่าง ๆ ที่ไม่ใช้แล้ว รวมถึงเสาไฟฟ้าที่ชำรุด และยางรถยนต์เก่า นำมาทำเป็นแนวป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ดักตะกอน เป็นระยะทางกว่า 1,700 เมตร พร้อมทั้งดำเนินการปักเสาฯ เพิ่มอีก 2 จุด ฝั่งเหนือ-ฝั่งใต้ จุดละ 250 เมตร รวมระยะทางกว่า 2,200 เมตร เพื่อปิดหัว-ท้ายของแนวปักเสาฯ

นายจุมภฎ หิมะเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA ระบุว่า ล่าสุดโครงการนี้ ได้ดำเนินการปักเสาฯ ฝั่งเหนือเสร็จเรียบร้อยแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการปักเสาฯ ฝั่งใต้ โดยมีกำหนดแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 โดย MEA ยังคงเดินหน้าดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินอย่างต่อเนื่องในพื้นที่รับผิดชอบ และพร้อมส่งมอบเสาไฟฟ้าในทุกโครงการเพื่อนำมาใช้กันคลื่นกัดเซาะบริเวณชายฝั่งทะเลให้ครอบคลุมชายฝั่งทะเลกรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน เป็นระยะทางประมาณ 4.7 กิโลเมตรต่อไป

นอกจากนี้ MEA ยังได้สนับสนุนงบประมาณจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อดำเนินการปักเสาใช้เป็นแนวป้องกันคลื่นทะเล รวมถึงสนับสนุนงบประมาณปลูกป่าชายเลนและบำรุงรักษาป่าชายเลนเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งให้แก่ป้อมพระจุลจอมเกล้า ฐานทัพเรือกรุงเทพ และตลอดระยะเวลากว่า 16 ปี  ได้สนับสนุนเงินรวมแล้วกว่า  7 ล้าน 8 แสนบาท อีกทั้งยังดำเนินการปรับปรุงอาคารนิทรรศการเปิดโลกป่าชายเลนและภูมิทัศน์โดยรอบให้มีสภาพสวยงาม เพื่อพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและเป็นแหล่งความรู้สำหรับผู้ที่สนใจทั่วไป

สำหรับคุณสมบัติเด่นของเสาไฟฟ้านั้น เนื่องจากเสามีลักษณะเป็นแท่งคอนกรีตที่มีความแข็งแรง อายุการใช้งานนานประมาณ 30 ปี ซึ่งมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าเสาไม้ทั่วไปกว่า 30 เท่า อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นจากโครงสร้างลวดเหล็กภายในเสาไฟฟ้า ทำให้สามารถรับแรงดัดได้มากถึง 4.5 ตันเมตร หรือ หักโค้งได้ประมาณ 7-8 เซนติเมตร ทำให้มีความแข็งแรงทนทานสามารถรองรับความรุนแรงของคลื่นทะเลที่มากระทบได้มากขึ้น

ซึ่งจากความร่วมมือระหว่าง MEA และคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้วพบว่า แนวป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งด้วยเสาไฟฟ้าสวมด้วยยางรถยนต์ ช่วยลดความแรงของกระแสน้ำทำให้มีปริมาณการสะสมของตะกอนหลังเขื่อนเพิ่มมากขึ้น ต้นกล้าและลูกไม้ ประเภทไม้โกงกาง รวมถึง พรรณไม้น้ำต่าง ๆ ที่อยู่หลังแนวป้องกันมีปริมาณหนาแน่นขึ้น รวมถึงมีการกลับมาของสัตว์น้ำนานาพันธุ์และนกนานาชนิด มีแนวโน้มการอยู่รอดเพิ่มขึ้น ส่วนยางรถยนต์ที่สวมอยู่กับเสาไฟฟ้าจากผลการศึกษาไม่พบการสลายตัวที่เป็นพิษต่อสภาพแวดล้อม หรือส่งผลกระทบทางลบต่อการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตและป่าชายเลนแต่อย่างใด

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ