คปภ.อนุมัติ 6 บริษัทประกัน ขายประกันแพ้วัคซีนโควิด-19
18 จังหวัดรับวัคซีนต้านโควิด-19 ล็อตแรก
เทียบวัคซีนโควิด-19 สองชนิดเข้าไทย “แอสตราเซเนกา-ซิโนแวค”
การขนส่งวัคซีนโควิด-19 เป็นหนึ่งในประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะหากจัดการระบบขนส่งได้ไม่ดีพอ อาจเป็นผลให้วัคซีนเสื่อมสภาพก่อนไปถึงผู้รับ โดยเฉพาะวัคซีนบางชนิดที่มีข้อจำกัดเรื่องอุณหภูมิ
วัคซีนโควิด-19 เพิ่งเดินทางถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา และคาดว่าในอนาคตการขนส่งวัคซีนโควิด-19 จะกลายเป็นเรื่องปกติของทั้งโลก ด้วยเหตุนี้ นิวมีเดีย พีพีทีวี จึงมีโอกาสสัมภาษณ์ คุณเทียนหลง วูน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย หนึ่งในผู้นำด้านการขนส่งและโลจิสิกส์ของโลก
เฟดเอ็กซ์ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการเวชภัณฑ์
คุณเทียนหลง วูน บอกว่า เฟดเอ็กซ์เคยทำงานร่วมกับลูกค้าด้านเวชภัณฑ์มาหลายสิบปี มีประสบการณ์ขนส่งยาต่าง ๆ และวัคซีนไข้หวัดตามฤดูกาลทั่วโลกและในประเทศไทย
“การขนส่งวัคซีนไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับเฟดเอ็กซ์ ก่อนหน้านี้เราเคยจัดส่งชุดต้นแบบทดลองทางคลินิกที่ต้องใช้ระบบห่วงโซ่ความเย็น (Cold Chain System) มาก่อนวัคซีนโควิด-19 จะสำเร็จ” เขากล่าว
เฟดเอ็กซ์ใช้เวลาหลายสิบปี ในการพัฒนาธุรกิจด้านชีววิทยาและทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเวชภัณฑ์เพื่อให้มั่นใจว่าการขนส่งยาและวัคซีนไข้หวัดจะเป็นไปตามเงื่อนไขการส่งที่เหมาะสม มีหลักฐานยืนยันเป็นผลงานการขนส่งเวชภัณฑ์จำนวนมาก ได้แก่
- ในปี 2009 ร่วมจัดส่งวัคซีน H1N1 กว่า 80 ล้านโดสไปยังกว่า 90,000 ปลายทาง
- ทำงานร่วมกับบริษัท Direct Relief จัดส่งอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในรูปแบบของพัสดุด่วนจำนวนมหาศาลไปยังทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา เพื่อช่วยเหลือแพทย์และพยายามหยุดยั้งโรคอีโบลา
- ทำงานร่วมกับมูลนิธิ เอดส์ เฮลท์ แคร์ (AHF) จัดส่งยาเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยแบบเรียลไทม์ในตัวเมืองสหรัฐอเมริกา
- ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 เฟดเอ็กซ์จัดส่งอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 จำนวนมากไปรอบโลก ได้แก่ อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล จำนวนกว่า 46 กิโลตัน หน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัยกว่า 1.8 พันล้านชิ้น
ขั้นตอนขนส่งวัคซีนโควิด-19 ซับซ้อนแต่ทำได้
คุณเทียนหลง วูน เล่าว่า “การขนส่งวัคซีนเป็นเรื่องซับซ้อนเพราะมีองค์ประกอบที่คลาดเคลื่อนได้ง่ายหลายส่วน การตรวจวัดอุณหภูมิและการติดตามตำแหน่งถือเป็นสองส่วนสำคัญของกระบวนการโลจิสติกส์ครบวงจร เนื่องจากวัคซีนมีหลายชนิดและต้องใช้ห่วงโซ่ความเย็นที่แตกต่างกัน ทำให้เราไม่มีรูปแบบการส่งที่ตายตัวและเป็นความท้าทายที่เรากำลังแก้ไขอยู่”
เขาเสริมว่าวัคซีนโควิด-19 ที่ซับซ้อนเป็นพิเศษคือวัคซีนของไฟเซอร์–ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNTech) ซึ่งต้องควบคุมอุณหภูมิให้ต่ำกว่า -70 องศาเซลเซียส หากอุณหภูมิเปลี่ยนอาจเสื่อมประสิทธิภาพ
“นอกจากนี้องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังเปิดเผยผลการศึกษาว่า ในทุก ๆ วัคซีนทั่วโลกถึงร้อยละ 50 จะเสื่อมประสิทธิภาพเพราะยังขาดแคลนระบบห่วงโซ่ความเย็นและบริษัทโลจิสติกส์ที่สามารถจัดส่งพัสดุห่วงโซ่ความเย็นได้แบบไม่ขาดตอน และทำให้ต้นทางและปลายทางขนส่งมีความจำเป็นต้องใช้น้ำแข็งแห้งซึ่งจัดเป็นพัสดุอันตราย” เขาเสริม
ในปัจจุบัน เฟดเอ็กซ์ขนส่งน้ำแข็งแห้งกว่า 500,000 รอบไปยังกว่า 100 ประเทศทั่วโลกในแต่ละเดือน เพื่อประกอบการจัดส่งเวชภัณฑ์สำคัญอย่างวัคซีน ส่วนผสมทางเภสัชกรรม และตัวอย่างการทดลองชีวภาพ
การจัดส่งอย่างต่อเนื่องไม่ขาดช่วงเองก็เป็นอีกหนึ่งในความท้าทายที่ทำให้การจัดส่งวัคซีนมีความยากขึ้นไปอีก ซึ่งโดยปรกติแล้วจะต้องมีการจัดส่งวัคซีนกว่า 1 หมื่นล้านโดสทั่วโลก
สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ได้คำนวนการจัดส่งวัคซีนเอาไว้ว่า การจัดส่งวัคซีน 1 โดสให้คนจำนวน 7.8 พันล้านคน จะต้องใช้เครื่องบินโบอิ้ง 747 จำนวน 8,000 ลำ
เฟดเอ็กซ์พร้อมรับความท้าทายนี้ โดยมีเครื่องบิน 8,000 ลำที่จัดส่งวัคซีนรายสัปดาห์ บินกว่า 32,000 เที่ยวต่อเดือน และกว่าครึ่งของเครื่องบินเป็นเครื่องบินลำใหญ่ ทำให้จัดส่งวัคซีนให้ทั้งโลกได้ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์
พัฒนาเทคโนโลยีพร้อมรับการขนส่งวัคซีนโควิด-19
คุณเทียนหลง วูน ยืนยันว่า “เฟดเอ็กซ์มีความพร้อมที่จะจัดส่งวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกและทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพราะได้เพิ่มความสามารถทางเทคโนโลยีในการขนส่ง รวมถึงเพิ่มศักยภาพระบบห่วงโซ่ความเย็นที่มีอยู่แล้วตามศูนย์กระจาย นอกจากนี้ยังสั่งซื้อตู้แช่แข็งอุณหภูมิต่ำพิเศษ 6 ตู้มายังศูนย์กระจายหลักในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพิ่มเสริมความสามารถในการขนส่ง”
ในส่วนของเทคโนโลยีที่ต้องใช้ในการจัดส่งวัคซีน เฟดเอ็กซ์ได้เน้นการผสานนวัตกรรมในการเตรียมการครั้งนี้ ใช้อุปกรณ์เซนเซอร์ติดตาม SenseAware ร่วมกับบริการ FedEx Priority Overnight® สำหรับการเตรียมพร้อมและจัดส่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งบริการนี้ใช้งานร่วมกับบริการ FedEx Priority Alert® เพื่อติดตามการส่งวัคซีนอย่างใกล้ชิดโดยผู้เชี่ยวชาญของเฟดเอ็กซ์
เฟดเอ็กซ์ยังได้ประกาศความร่วมมือกับไมโครซอฟต์เพื่อเปิดตัวบริการ FedEx Surround ซึ่งเป็นการผสานเครือข่ายโลจิสติกส์ของเฟดเอ็กซ์เข้ากับระบบคลาวด์อัจฉริยะของไมโครซอฟต์ ช่วยให้ธุรกิจสามารถในการตรวจสอบซัพพลายเชนได้ง่ายขึ้น โดยใช้ข้อมูลวิเคราะห์การติดตามพัสดุแบบเกือบตามเวลาจริง ช่วยเพิ่มความแม่นยำให้แก่ระบบโลจิสติกส์และการจัดการบริหารพัสดุในคลัง
นอกจากการระบุตำแหน่งและอุณหภูมิพัสดุรวมถึงติดตามพัสดุที่อยู่ทั่วโลกได้เกือบตามเวลาจริงแล้ว เฟดเอ็กซ์ยังมีทีมสนับสนุนลูกค้าที่คอยติดตามการขนส่งวัคซีนอย่างใกล้ชิด พร้อมเข้าแก้ไขสถานการณ์หากมีเหตุฉุกเฉิน เช่น สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง การจราจรที่แออัด หรืองานเอกสารศุลกากรที่อาจทำให้เกิดความล่าช้าในการจัดส่ง
วัคซีนโควิด-19 กับอนาคตอุตสาหกรรมโลจิสติกส์
ในเดือนธันวาคมปี 2020 เฟดเอ็กซ์ได้รับอนุญาตให้จัดส่งวัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคทั่วสหรัฐฯ โดยต้องส่งวัคซีนโควิด-19 ไปยัง 50 รัฐทั่วอเมริกา รวมถึงเปอร์โตริโก หมู่เกาะเวอร์จิน และอีก 13 รัฐในแคนาดา
ปัจจุบัน เฟดเอ็กซ์กำลังเตรียมการเพื่อส่งวัคซีนโควิด-19 ไปยังประเทศอื่น ๆ ด้วย โดยตอนนี้บริษัทเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ยังอยู่ในช่วงรอการอนุญาตขอส่งออกวัคซ๊นโควิด-19 ไปยังหลายประเทศ
หากบริษัทผู้ผลิตวัคซีน ลูกค้าเวชภัณฑ์ ผู้กระจายสินค้า หรือรัฐบาล ได้รับอนุญาตให้มีการขนส่งวัคซีนโควิด-19 คุณเทียนหลง วูน บอกว่าก็พร้อมทำการจัดส่งวัคซีนโควิด-19 ทันที
“เราจัดความสำคัญการขนส่งวัคซีนทั่วโลกเป็นหนึ่งในการทำงานที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท ปฎิบัติการครั้งนี้ยิ่งใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อนในอุตสาหกรรม” คุณเทียนหลง วูน กล่าว
เขาเสริมว่า ในอดีตที่ผ่านมา คนทั่วไปที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทโลจิสติกส์หรือผู้ให้บริการด้านสุขภาพ แต่การเข้ามาของวัคซีนโควิด-19 ทำให้การขนส่งและโลจิสติกส์เป็นจุดศูนย์กลางความสนใจ
“วัคซีนจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อถูกส่งไปยังที่หมายที่มีความต้องการเท่านั้น ... วัคซีนจะต้องถูกจัดส่งในจำนวนหลาย ๆ โดสได้อย่างรวดเร็วที่สุด ซัพพลายเชนต้องมีความยืดหยุ่นและคล่องตัว สามารถเปลี่ยนแปลงอย่างฉับไวเพื่อรับต่อจำนวนการขนส่งที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ ต้องมีห่วงโซ่ความเย็นที่ต่อเนื่องไม่ขาดสาย เพื่อให้สามารถส่งวัคซีนในจำนวนที่ต้องการได้โดยไม่เสื่อมประสิทธิภาพ”
วัคซีนโควิด-19 เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญที่จะทำให้มนุษยชาติผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ แต่หากไม่มี “การขนส่ง” ที่มีประสิทธิภาพ ก็ไม่ต่างอะไรจากการมีอาวุธแต่ลั่นไกออกไปไม่ได้ การขนส่งจึงมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน และเป็นเรื่องน่ายินดี ที่โลกรวมถึงประเทศไทยเอง มีองค์กรหลากหลายที่พร้อมทำให้การขนส่งวัคซีนโควิด-19 ไปถึงมือทุกคนบนโลกได้อย่างแท้จริง
