บางกอกแอร์เวย์ส (BA) เผยผลประกอบการ พิษโควิด-19 รายได้ลดลงกว่าร้อยละ 60
ข่าวดี! ปตท.-บางจาก ปรับลดราคาน้ำมันทุกชนิด มีผลเที่ยงวันนี้เป็นต้นไป
"คนละครึ่ง-เราชนะ" โอนเงินช้าหมุนเงินไม่ทัน
ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,527.76 จุด เพิ่มขึ้น 24.40 จุด (+1.62%) มูลค่าการซื้อขายราว 61,304.21 ล้านบาท สดใสตลอดช่วงเช้า เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้สดใส เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวกเช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส และราคาน้ำมันฟิวเจอร์สบวกราว 0.6% ช่วยหนุนกลุ่มพลังงาน หลังจากหนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปในการดูแลสภาพคล่อง ซึ่งทำให้มองว่าเฟดน่าจะคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ได้
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มที่คาดหวังการเปิดประเทศ หลังจากที่มีการกระจายวัคซีนในต่างประเทศได้เร็ว และไทยก็จะมีหารือเรื่องวัคซีนพาสปอร์ตสัปดาห์หน้า ทำให้มีความคาดหวังการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อย่างภูเก็ต, สมุย เป็นต้น ทำให้วันนี้หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวคึกคัก และหุ้นกลุ่มแบงก์ขึ้นมาได้หลังจากที่ Bond yield ของไทยยังสูงขึ้น นอกจากนี้ ดัชนีฯขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,500 จุดเป็น Sentiment ที่ดีต่อตลาดฯ
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสทรงตัวหลังจากช่วงเช้าขึ้นไปมากแล้ว พร้อมให้แนวรับ 1,520 จุด ส่วนแนวต้าน 1,530-1,535 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 7,688.80 ล้านบาท ปิดที่ 63.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท
STA มูลค่าการซื้อขาย 3,730.55 ล้านบาท ปิดที่ 48.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,468.88 ล้านบาท ปิดที่ 67.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
OR มูลค่าการซื้อขาย 1,678.35 ล้านบาท ปิดที่ 29.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,492.37 ล้านบาท ปิดที่ 124.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ทั้งในแดนบวก-ลบในกรอบแคบ เนื่องจากไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่เข้ามา
ราคาทองวันนี้ – 3 มี.ค. 64 ปรับราคา 2 ครั้ง
การบินไทย ตั้งเป้าลดพนักงานอีก 7,000 คน ภายในปี 64
ขณะเดียวกันตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ขณะที่ตลาดยุโรปบวกสวนทางตลาดสหรัฐฯติดลบ โดยฝั่งสหรัฐยังกังวลอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐฯแม้ว่าจะลงมาเหลือ 1.4% จากก่อนหน้านี้แกว่งแถว 1.5-1.6% และยังต้องติดตามความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯต่อไปด้วย รวมถึงติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 16-17 มี.ค.นี้
ส่วนวันนี้ให้ติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสที่จะมีขึ้นในวันที่ 3-4 มี.ค.นี้ จับตาเรื่องกำลังการผลิตน้ำมัน เนื่องจากตลาดคาดว่าจะมีการปรับเพิ่ม 1.3-1.5 ล้านบาร์เรล/วัน จะส่งผลให้ราคาน้ำมันย่อตัวลงและไปฉุดหุ้นในกลุ่มพลังงานในระยะสั้น อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงจะเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัวได้ หลังจากที่ผลประกอบการงวดไตรมาส 4/63 ของบริษัทจดทะเบียนออกมาดีกว่าคาดเป็นส่วนใหญ่ ทำให้คงจะมีการทยอยปรับประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนกันในช่วง 1-2 สัปดาห์จากนี้
พร้อมให้แนวับ 1,500-1,495 จุด ส่วนแนวต้าน 1,510-1,517 จุด
ด้าน บล.ไทยพาณิชย์ แกว่งในกรอบ 1485-1518 จุด รอการ breakout เพื่อเลือกทาง และทิศทางที่ชัดเจน
กลยุทธ์การลงทุน:
ดัชนียังเคลื่อนไหวออกด้านข้างระหว่างกรอบ 1485-1518 จุด เพื่อรอการ breakout กรอบใดกรอบหนึ่ง จะมีทิศทางที่ชัดขึ้น ขณะที่ปัจจัยบวกลบที่มีเข้ามาคละเคล้า ทำให้การเคลื่อนไหวของดัชนียังไม่ไปไหน โดยปัจจัยด้านบวก คือ การกระจายวัคซีน และ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ส่วน ปัจจัยกดดัน มาจากทิศทางดอลลาร์ที่แข็งค่า กระตุ้นแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ กลยุทธ์ พอร์ตหลัก รอเข้าซื้อเมื่อใกล้ 1450 จุด ส่วนการซื้อเก็งกำไรใช้แบบ Selective Buy ด้วยความระมัดระวัง
แนะนำ HMPRO คาดกำไรปี 64 ฟื้นตัว YoY จาก SSS ฟื้นตัว การขยายสาขา หนุนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น; เก็งกำไร PTG คาดกำไรปีนี้โตต่อเนื่องและกระจายในธุรกิจ non-oil และ NER คาดกำไรปีนี้โตโดดเด่น และมีประเด็นหนุนเรื่องกัญชง
สถานการณ์ต่างประเทศ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (2 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,391.52 จุด ลดลง 143.99 จุด (-0.46%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,870.29 จุด ลดลง 31.53 จุด (-0.81%) ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,358.79 จุด ลดลง 230.04 จุด (-1.69%)
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 8.43 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 73.95 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 153.57 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (2 มี.ค.) ปิดที่ 59.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 89 เซนต์ หรือ 1.5%
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 มี.ค.) อยู่ที่ 2.54 ดอลลาร์/บาร์เร
เงินบาทเปิด 30.25 แข็งค่าจากวานนี้หลังดอลล์กลับมาอ่อนค่า จับตาเงินทุนเคลื่อนย้าย
