โควิด-19 ระลอกใหม่กระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศอย่างน้อย 3 เดือน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




3 ภาคเอกชน (กกร.) ประเมิน โควิด-19 ระลอกใหม่ กระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศอย่างน้อย 3 เดือน ทั้งแผนกระตุ้นท่องเที่ยวล่าช้าออกไป กำลังซื้อหดหลังแรงงานถูกลดชั่วโมงทำงาน หั่นประมาณการเศรษฐกิจปี 64 เหลือขยายตัว 1.5%

คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) โดย นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นประธาน กกร. นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ร่วมเป็นประธานการประชุมและการแถลงข่าว โดยที่ประชุม กกร. มีความเห็นต่อเศรษฐกิจไทยหลังได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่เดือนเมษายน

กสิกรหั่นเศรษฐกิจไทยเหลือ 1.8% เจอพิษโควิดรอบใหม่รุนแรงกว่าก่อนหน้า

โดยคาดว่า จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศอย่างน้อย 3 เดือน คือ 

แผนการท่องเที่ยวในประเทศ แผนการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ จะทำได้ยากและจำเป็นต้องเลื่อนออกไปอีกในช่วง 3 เดือนข้างหน้า 

กระทบอย่างมากต่อ กำลังซื้อ เพราะแรงงานในภาคบริการต้องหยุดหรือลดชั่วโมงการทำงาน

ดังนั้น รัฐจำเป็นต้องใช้เม็ดเงินที่มีกว่า 2 แสนล้านบาทเข้ามาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยคำนึงถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่มีความแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วน (K-shape Recovery) โดยเฉพาะการประคับประคองกำลังซื้อในประเทศโดยรวม และการขยายระยะเวลามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการและแรงงานที่ยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโรค

นอกจากนี้ การแจกกระจายวัคซีนต้านโควิด-19 ต้องเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งวัคซีนจะเป็นปัจจัยที่สร้างเสริมความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจและประชาชนได้มากที่สุด และจะทำให้ภาพของอุปสงค์ในประเทศกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

“คนละครึ่ง” เฟส 3 กระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ พ.ค.นี้  

ก.คลัง ยัน “เราชนะ” ไม่เปิดลงทะเบียนเพิ่ม 2.4 ล้านสิทธิ์

เศรษฐกิจไทยยังเผชิญความเสี่ยงค่อนข้างมากจากการระบาดระลอกใหม่ที่รวดเร็วและรุนแรง กระทบต่ออุปสงค์ในประเทศ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวชัดเจนขึ้นมากเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าจะส่งผลดีต่อแนวโน้มส่งออกของไทยในระยะต่อไป : ความเห็นจากภาคเอกชน

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม กกร.  ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2564 เป็นขยายตัวได้ในกรอบ 1.5% ถึง 3.0%  แต่ประมาณการนี้ขึ้นอยู่กับการฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมายและมาตรการของรัฐที่มีขนาดกว่า 2 แสนล้านบาทที่จะเข้ามาเยียวยาเศรษฐกิจ โดยหากไม่มีเม็ดเงินดังกล่าว จีดีพีจะไม่ขยายตัวหรือเติบโต 0% 

ด้านการส่งออก กกร. ปรับเพิ่มประมาณการการส่งออกในปี 2564 คาดว่าจะขยายตัว 4.0% ถึง 6.0% จากอานิสงค์  เศรษฐกิจคู่ค้าที่ขยายตัวดีขึ้น แม้หลายประเทศจะยังเผชิญวิกฤตโรคระบาด

ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ในกรอบ 1.0% ถึง 1.2% 

นอกจากนี้ กกร. มีความเป็นห่วง เรื่องการกระจายวัคซีนที่ยังล่าช้าและแผนงานยังไม่ชัดเจน จึงได้ร่วมกันจัดตั้งคณะทำงานใน 4 ด้าน เพื่อจัดทำข้อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี คือ

 1. คณะแก้ไขปัญหาการกระจายและฉีดวัคซีน โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนในเรื่องโลจิสติกส์   การขนส่งและสถานที่ในการฉีด เช่น ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร นิคมอุตสาหกรรม ปั๊มน้ำมัน เป็นต้น 

 2. คณะสร้างความเชื่อมั่นและประชาสัมพันธ์ โดยประสานข้อมูลกับผู้เชี่ยวชาญต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชน

3. คณะสนับสนุนระบบอำนวยความสะดวกระบบงานต่างๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการฉีด จนถึงการออกใบรับรอง และการจัดทำระบบ Vaccine Passport เพื่อใช้แสดงในการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ

4. คณะจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม ที่ผ่านมาได้รวบรวมความต้องการภาคเอกชนในการซื้อวัคซีนเพื่อเร่งการฉีดให้เร็วขึ้น โดยมีผู้ซื้อแสดงความจำนงมาแล้วกว่า 5 ล้านโดส และขอให้ อย. ผ่อนคลายระเบียบเพื่อให้มีการซื้อวัคซีนได้มากขึ้น

 

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ