พนักงานร้านอาหารกว่าครึ่ง เสี่ยงตกงาน หลังไม่ให้นั่งกินที่ร้าน
บทเรียนจากโควิด-19 สู่การปรับตัวของธุรกิจภาคบริการ
เฟซบุ๊กของร้าน Daddy G’s smoke&Brew ซึ่งเมื่อวาน(1 พ.ค.) โพสต์ว่า จะเปิดห้องพักให้ลูกค้าเข้าไปรับประทานอาหารในห้อง โดยจะรับเฉพาะ คนที่อยู่ในครอบครัวเดียวกัน และดำเนินการตามมาตรการที่รัฐกำหนด // หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ไป มีทั้งคนที่เข้าใจว่าธุรกิจร้านอาหารต้องแบกรับปัญหามาตรการสั่งห้ามกินที่ร้าน และ คนที่มองว่า การหาช่องว่างของมาตรการอาจทำให้เกิดการระบาดโควิด-19 เพิ่มเติม
ล่าสุดวันนี้ เจ้าของร้านอาหารโพสต์ภาพ ตำรวจ 3-4 นายลงพื้นที่ร้านอาหารของเขา พร้อมบอกว่าขอบคุณที่แวะมาแนะนำแนวทางปฎิบัติของโรงแรม พร้อมย้ำว่า ตอนนี้ร้านอาหารที่อยู่ใต้โรงแรมของเขา ยังเปิดให้บริการเฉพาะซื้อกลับบ้าน ตามมาตรการของศบค. เรื่องนี้มีรายงานว่า ศบค.ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว จะมีการนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม วันพรุ่งนี้(3พ.ค.) และ จะแถลงผลการประชุมเรื่องนี้อีกครั้ง
ขณะที่วันนี้ทีมข่าวพูดคุยกับ นายธิติฏฐ์ ทัศนาขจร หรือเชฟต้น เชฟระดับมิชลินสตาร์ชขื่อดัง ที่แม้จะมีชื่อเสียงมาก แต่ก็เปิดใจว่า ได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดร้านอาหารเช่นเดียวกัน โดยบอกว่าร้านของเขาเป็นร้านอาหาร Fine dining การเปลี่ยนให้ซื้อกลับบ้าน หรือ เปิดให้มีเดลิเวอร์รี่ รสชาติอาหารจะเปลี่ยนไปจากที่ทำ โดยเชฟต้น ทดลองเขย่าถ้วยอาหารให้ดู พร้อมเปลี่ยนเทียบว่า อาหารจะถูกเขย่าตลอดเวลา หากเปิดให้มีเดลิเวอร์รี่ หรือ ซื้อกลับไปทางที่บ้าน
พร้อมบอกว่า ผลกระทบที่มันเกิดขึ้นทันที ตอนนี้ คือ รายได้ของร้านหายไป 90% อยากให้เวลาออกมาตรการใดใด รัฐบาลควรคำนึงถึงร้านอาหารแต่ละประเภทด้วย แม้จะเข้าใจว่าสถานการณ์ตอนนี้ต้องช่วยกันทำให้การระบาดโควิด-19 ยุติลง แต่ก็อยากให้รัฐบาลออกมาตรการดูแลผู้ประกอบการและให้ความชัดเจนเรื่องการเยียวยามากกว่านี้
เชฟต้นยังบอกอีกว่า ร้านอาหารทุกแห่งที่ดิ้นรนปรับตัว ไม่ได้ทำเพื่อให้ได้กำไร แต่ทำเพื่อให้อยู่รอดจากวิกฤตนี้