เช็กสิทธิ 8 โครงการ 7 มาตรการเยียวยาโควิด ลด แลก แจก 1,200-7,000 ให้สินเชื่อปลอดดอก พักหนี้


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เปิดมติครม.7มาตรการเยียวยาโควิดระลอก 3 กาง 8 โครงการ ลดค่าไฟ ให้กู้ ลดดอก เราชนะ คนละครึ่งเฟส3 ม33เรารักกัน E -Voucher ยิ่งใช้ยิ่งได้ เพิ่มเงินคนจน

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในประเด็นเรื่องมาตรการเยียวยาโควิด ว่า การระบาดของโควิดในระลอกนี้ ทำให้จำเป็นต้องออกมาตรการปิดสถานที่ต่างๆ ซึ่งเกิดผลกระทบกับพี่น้องประชาชนจำนวนมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตนมีคำสั่งให้กับทางกระทรวงการคลัง และสภาพัฒน์ ได้ไปพิจารณาออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชนเพิ่มเติมโดยเร่งด่วน โดยสรุปได้เป็นมาตรการอาทิ ให้สินเชื้อ คนละครึ่งเฟส3 เราชนะ

ด่วน!! ครม.เคาะ มาตรการเยียวยาโควิด แจก "คนละครึ่งเฟส 3" ให้ 3,000 ให้เพิ่ม "เราชนะ - ม33เรารักกัน"

ด่วน! มาตรการเยียวยาโควิด ครม.เคาะเพิ่มสิทธิ "เราชนะ" ขยาย "ม33เรารักกัน" ถกเปิด "คนละครึ่งเฟส 3"

มาตรการระยะที่ 1 ประกอบด้วย 3 มาตรการหลัก สามารถดำเนินการได้ทันที  

  • มาตรการด้านการเงิน  

1. สินเชื่อสู้ภัย COVID-19 วงเงิน 20,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ ทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ และเกษตรกร โดยธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

ให้สินเชื่อแก่ประชาชนรายละ 10,000 บาท ด้วยหลักเกณฑ์ที่ผ่อนปรนกว่าสินเชื่อปกติ ดอกเบี้ย 0.35% ต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 ปี ปลอดชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยใน 6 เดือนแรก

2. พักชำระหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจหรือ SFIs โดยให้ SFIs ขยายระยะเวลาพักชำระเงินต้นให้แก่ลูกหนี้ ออกไปจนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อลดภาระ และสามารถนำเงินที่จะต้องชำระหนี้ไปเป็นเสริมสภาพคล่อง ซึ่งจะจากผลกระทบที่เกิดขึ้น เพื่อดูแลลูกหนี้ได้อย่างเหมาะสม

  • มาตรการด้านการบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย  

ลดค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้า และน้ำประปาของประชาชน และกิจการขนาดเล็กทั่วประเทศ ในช่วงเดือนพฤษภาคม ถึง มิถุนายน 2564 เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนและกิจการที่ถูกปิด ค่าน้ำประปาลด 10% เวลา 6เดือน สำหรับค่าไฟฟ้า ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน ให้สิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี 90  หน่วยแรก ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 150 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า

  • มาตรการต่อเนื่องด้านการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ประกอบด้วย 2 โครงการ วงเงินรวมประมาณ 85,500 ล้านบาท ได้แก่

1. การเพิ่มวงเงินโครงการเราชนะ อีกสัปดาห์ละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ รวมเพิ่มสิทธิเราชนะ 2,000 บาทโดยให้สิ้นสุดเวลาการใช้จ่าย 30  มิถุนายน 2564 วงเงินรวมประมาณ 67,000 ล้านบาท

            2. การเพิ่มเงินช่วยเหลือผู้ประกันตนโครงการ ม33 เรารักกัน สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33  อีกสัปดาห์ละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ รวมเพิ่มสิทธิ ม33เรารักกัน 2,000 บาท โดยให้สิ้นสุดเวลาการใช้จ่าย 30 มิถุนายน 2564 วงเงินรวมประมาณ 18,500 ล้านบาท

นายกรัฐมนตรีระบุว่า  วันนี้คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการในส่วนของมาตรการด้านการเงินทั้ง 2 เรื่องตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และเห็นชอบให้ดำเนินมาตรการลดค่าใช้จ่ายน้ำประปา และไฟฟ้า ในช่วงเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน แล้ว 

สำหรับการเพิ่มเงินในโครงการเราชนะ และโครงการ ม.33 เรารักกัน หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการจะเร่งนำเสนอโครงการให้พิจารณาตามขั้นตอน กำหนดให้นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าต่อไป

  • มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ กยศ. ขยายระยะเวลามาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมสู้ภัยโควิดออกไปจนสิ้นปีนี้ และลดอัตราดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 0.01 ซึ่งจะมีผู้ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้ประมาณ 3 ล้านคน รวมทั้งการ
  • มาตรการชดเชยผู้ประกันตนตาม ม.33 ที่ต้องกักตัวหรือต้องหยุดทำงาน

เปิดวิธี ผู้ประกันตน ม.33 รับเงินชดเชยว่างงาน จากโควิด-19

มาตรการระยะที่ 2  ในช่วงเดือนกรกฎาคม - ธันวาคม 2564  คาดว่าถ้าเราร่วมมือกันเพื่อจำกัดการระบาดอย่างเต็มที่ สถานการณ์การระบาดน่าจะคลี่คลายลงจนอยู่ในระดับที่สามารถดำเนินมาตรการในระยะที่ 2 ได้ โดยมาตรการในระยะที่ 2 ประกอบด้วย 2 มาตรการหลัก กรอบวงเงินประมาณ 140,000 ล้านบาท

  • มาตรการลดภาระค่าครองชีพ ประกอบด้วย 2 โครงการ ได้แก่

 1.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 โดยให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมเดือนละ 200 บาท ระยะเวลา 6 เดือน รวม 1,200 บาทตั้งแต่กรกฎาคม - ธันวาคม 2564 ครอบคลุมประชาชนประมาณ 13 ล้าน 6 แสนคน

 2.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ โดยให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมเดือนละ 200 บาท ระยะเวลา 6 เดือน รวม 1,200 บาท ตั้งแต่กรกฎาคม - ธันวาคม 2564 ครอบคลุมประชาชนประมาณ 2 ล้าน 5 แสนคน

  • มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ  กระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนกลุ่มที่มีรายได้ปานกลาง และรายได้สูง ประกอบด้วย 2 โครงการ ได้แก่

1.โครงการคนละครึ่งเฟส3   วงเงินไม่เกิน 3,000 บาท ใช้จ่ายวันละไม่เกิน 150 บาท เริ่มเดือนกรกฎาคม เป็นต้นไป

2.โครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้”  โครงการนี้จะเป็นโครงการใหม่ ซึ่งโดยภาครัฐจะสนับสนุนบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ E -Voucher  ให้แก่ผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เมื่อชำระเงินผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” กับผู้ประกอบการร้านค้าและบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ซึ่งโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศผ่านผู้มีกำลังซื้อสูงให้นำเงินออกมาใช้จ่ายและสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยให้สิทธิ 5,000 -7,000 บาท

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า มาตรการในระยะที่ 2 ทั้งสี่โครงการข้างต้นจะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายกว่า 51 ล้านคน และคาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจประมาณ 473,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการ SME ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถมีโอกาสในการขายสินค้า และบริการได้มากขึ้น ซึ่งมาตรการในระยะที่ 2 นี้ ครม.ได้รับทราบในหลักการ และหน่วยงานที่รับผิดชอบจะเร่งดำเนินการเพื่อขออนุมัติจาก ครม. ต่อไป

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ