หุ้นไทย (24 พ.ค.64) ปิดที่ระดับ 1,551.85 จุด ลดลง -0.59 จุด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หุ้นไทย (24 พ.ค.64) ปิดที่ระดับ 1,551.85 จุด ลดลง -0.59 จุด (-0.04%) มูลค่าการซื้อขายราว 78,740.77 ล้านบาท

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบมากทั้งในแดนบวก-ลบ เนื่องจากตลาดฯไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามา แม้จะมีความคาดหวังในพ.ร.ก.เงินกู้ใหม่ 7 แสนล้านบาทมาช่วยประคอง Downside ของตลาดฯได้บ้าง แต่ upside ตลาดยังเป็นเรื่องยากที่จะไปต่อ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศยังถ่วง

พบ คลัสเตอร์ใหม่ แคมป์คนงานก่อสร้างรัฐสภา ติดเชื้อโควิด 515 ราย

ติดเชื้อโควิด-19รายใหม่ 2,713 ราย เสียชีวิต 30 ราย ไทยอันดับ 87 ของโลก

“เชื้อราดำ” ในผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์อินเดียน่าห่วงพบแล้วเกือบ 9,000 ราย

หลังจากพบเชื้อโควิดเกือบทุกสายพันธุ์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ, อินเดีย, แอฟริกา จึงต้องจับตาว่าจะได้รับมอบวัคซีนได้ตามกำหนดหรือไม่ หรือจะเลื่อนออกไป เพราะมีผลต่อการเปิดเมือง

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็แกว่งในแดนบวก เพราะปัจจัยนอกประเทศอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จากเศรษฐกิจทั้งยุโรปและสหรัฐฟื้นตัว น่าจะมาช่วยหนุนในด้านการส่งออกของไทยได้ด้วย

อย่างไรก็ดี บ้านเรายังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศต่อไป ส่วนนอกประเทศช่วงนี้ก็ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศสำคัญ อย่างผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐงวดไตรมาส 1/64 ที่ใกล้จะประกาศออกมา

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ค.) น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ช่วงนี้ตลาดฯคงจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway Down เนื่องจากยังขาดปัจจัยขับเคลื่อน พร้อมให้แนวรับ 1,540-1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,560-1,565 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

KCE มูลค่าการซื้อขาย 3,578.42 ล้านบาท ปิดที่ 69.75 บาท เพิ่มขึ้น 6.75 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,376.38 ล้านบาท ปิดที่ 118.50 บาท ลดลง 2.00 บาท

KTC มูลค่าการซื้อขาย 2,308.92 ล้านบาท ปิดที่ 77.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

HANA มูลค่าการซื้อขาย 2,149.14 ล้านบาท ปิดที่ 55.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,052.00 ล้านบาท ปิดที่ 38.25 บาท ลดลง 0.25 บาท

 

 

หุ้น ปิดช่วงเช้า ที่ระดับ 1,554.30 จุด เพิ่มขึ้น 1.86 จุด (+0.12%) มูลค่าการซื้อขายราว 36,009.61 ล้านบาท สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ก็ยังถ่วงตลาดฯอยู่

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ คล้ายกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียที่แกว่งไซด์เวย์ทั้งแดนบวก-ลบ เนื่องจากตลาดฯยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ขณะเดียวกันสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ก็ยังถ่วงตลาดฯอยู่ จากจำนวนผู้ติดเชื้อยังไม่ลดลง และหากการแพร่ระบาดลามไปภาคการผลิต โดยเฉพาะกลุ่มโรงงานขนาดใหญ่ ก็อาจจะกระทบเศรษฐกิจได้

โควิด-19 ทำว่างงานพุ่ง จบใหม่ส่อตกงาน 5 แสนคน

ฉีดวัคซีนโควิด พนักงาน 7 สายการบิน ก่อนเปิดประเทศ ก.ค.นี้

รู้จักโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกา สายพันธุ์เจ้าพ่อเบอร์ 1 บุกทางภาคใต้ของประเทศไทย

อย่างไรก็ดี แนะติดตามตัวเลขการส่งออกของไทยวันพรุ่งนี้ ส่วนปัจจัยนอกประเทศยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศสำคัญ และการประชุมธนาคารกลางอินโดนีเซียที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ด้วย

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงยังแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,560 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

U มูลค่าการซื้อขาย 1,487.90 ล้านบาท ปิดที่ 1.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

SCGP มูลค่าการซื้อขาย 1,224.49 ล้านบาท ปิดที่ 58.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,008.67 ล้านบาท ปิดที่ 38.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 993.10 ล้านบาท ปิดที่ 120.00 บาท ลดลง 0.50 บาท

OR มูลค่าการซื้อขาย 9.66.80 ล้านบาท ปิดที่ 29.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

เปิดการซื้อขายเช้า

หุ้นไทย (24 พ.ค.64) เปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,557.17 จุด เพิ่มขึ้น +4.73 จุด (+0.30%) มูลค่าการซื้อขาย 7,409.48 ล้านบาท

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ ในลักษณะพักฐาน เนื่องจากมีความเป็นห่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศขณะนี้ที่พบเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาใต้ และเชื้อสายพันธุ์อินเดีย และมีความกังวลการปรับเกณฑ์นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังจากเงินเฟ้อสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้ง Fund Flow เป็นลบ เห็นได้จากนักลงทุนต่างชาติยังขายต่อเนื่อง

ธุรกิจสร้างบ้าน ห่วงโควิดทำแรงงานขาดแคลน

"ม.33 เรารักกัน" รับเงิน 1,000 บ.ผ่านแอปเป๋าตัง 24 พ.ค.นี้

นอกจากนี้ MSCI ก็จะปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยด้วย และตลาดฯก็ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาด้วย อย่างไรก็ดี สัปดาห์นี้มีตัวเลขการค้าของไทยและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทย ส่วนนอกประเทศให้ติดตามผลิตภีณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) งวดไตรมาส 1/62 (ประมาณการครั้งที่ 2) ของสหรัฐฯ และติดตามตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯรายสัปดาห์

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,545-1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,560-1,565 จุด

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ