หุ้นไทย (11 มิ.ย.64) ปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,636.56 จุด เพิ่มขึ้น +11.29 จุด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หุ้นไทย (11 มิ.ย.64) ปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,636.56 จุด เพิ่มขึ้น +11.29 จุด (+0.69%) มูลค่าการซื้อขาย 106,114.03 ล้านบาท

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้บวกได้ค่อนข้างดี โดยปรับตัวขึ้นมาตามตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก โดยตลาดไม่ได้ตอบรับเชิงลบต่อตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพราะมองว่าเป็นการปรับขึ้นชั่วคราวเท่านั้น

วัคซีนไม่พอฉีดผู้ประกันตน ม.33 แรงงาน ยันเปิดบริการใหม่ 28 มิ.ย. นี้

“อนุทิน” เผย ภูเก็ต-สมุย ฉีดวัคซีนเกิน 60% จ่อชง ศบค.เปิดพื้นที่ท่องเที่ยว

ขณะที่ตลาดฯ ได้รับแรงหนุนจากหุ้น Domestic play ในธีมเปิดเมือง นำโดย AOT และหุ้นกลุ่ม Commodity ที่ได้ประโยชน์จากเรื่องเงินเฟ้อ นำโดย BANPU

ในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)วันที่ 15-16 มิ.ย.นี้ ต้องติดตามว่าจะส่งสัญญาณต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยและการทำ QE อย่างไร โด ยบล.ฟินันเซีย ไซรัส มองว่า ในไตรมาส 4/64 ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะเริ่มชะลอ QE และจะเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งหลังปี 65

แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า วันนี้ Momentum ค่อนข้างเป็นบวก แต่ Upside ไม่ค่อยมากหลังดัชนีทะลุ 1,600 จุด คาดว่าทิศทางแกว่งตัว sideway

พร้อมให้แนวต้านที่ 1,635-1,640 จุด แนวรับที่ 1,625 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

AOT มูลค่าการซื้อขาย 6,171.89 ล้านบาท ปิดที่ 68.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท

RCL มูลค่าการซื้อขาย 5,925.77 ล้านบาท ปิดที่ 58.25 บาท ลดลง 5.25 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 4,204.41 ล้านบาท ปิดที่ 15.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท

TIDLOR มูลค่าการซื้อขาย 3,552.66 ล้านบาท ปิดที่ 45.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,874.09 ล้านบาท ปิดที่ 129.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

หุ้นไทย (11 มิ.ย.64) ปิดการซื้อขายเช้าที่ระดับ 1,633.47 จุด เพิ่มขึ้น  +8.20 จุด (+0.50%) มูลค่าการซื้อขาย 57,857.38 ล้านบาท

นายชัยยศ จิวางกุร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้น จากคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และคงใช้ QE ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันที่ 15-16 มิ.ย.นี้ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อ (CPI) สหรัฐเดือนพ.ค.สูง แต่มองว่าเป็นปัจจัยชั่วคราวเท่านั้น

โมเดอร์นา ขอ อย.สหรัฐฯ ฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวัยรุ่น (12-17 ปี)

เทียบผลข้างเคียงทั่วไป 2 วัคซีน "ซิโนแวคอาการน้อยกว่าแอสตร้าเซเนก้า"

ประกอบกับ ราคา Commodity อย่างถ่านหิน ราคาปรับตัวขึ้นค่อนข้างดีและทำนิวไฮในรอบปี และกลุ่มไฟแนนซ์ อาทิ SAWAD, MTC ก็ปรับตัวขึ้นมา โดยนักลงทุนหมุนกลุ่มเล่นมากขึ้น หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการชะลอการชำระหนี้สำหรับลูกหนี้ SME มองว่าจากมาตรการนี้จะทำให้ NPL ไม่น่าจะปรับขึ้นมาก

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย นายชัยยศ คาดว่า ตลาดฯ จะแกว่งตัว โดยให้แนวรับที่ 1,620 จุด แนวต้านที่ 1,640 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

RCL มูลค่าการซื้อขาย 4,272.14. ล้านบาท ปิดที่ 59.25 บาท ลดลง 4.25 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,711.81 ล้านบาท ปิดที่ 68.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,885.15. ล้านบาท ปิดที่ 15.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

TIDLOR มูลค่าการซื้อขาย 2,642.21 ล้านบาท ปิดที่ 45.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

TTA มูลค่าการซื้อขาย 1,482.69 ล้านบาท ปิดที่ 18.30 บาท ลดลง 0.60 บาท

หุ้นไทย (11 มิ.ย.64) บวกขึ้น 8.01 จุด ที่ระดับ 1,633.28 จุด (+0.49%) มูลค่า 21,437.37 ล้านบาท

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่า ปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ แม้ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ พ.ค.64 ระดับ 5% มากกว่าเดือนเม.ย.ที่อยู่ในระดับ 4.2% แต่ตลาดหุ้นดาวน์โจนส์บวกขึ้นไป 200 จุดระหว่างการซื้อขาย

ราคาทองวันนี้ – 11 มิ.ย. 64 ปรับราคา 3 ครั้ง ลดลงต่อเนื่องจากเมื่อเช้า

สธ.ลงนาม จองซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส

ตลาด มองว่า เงินเฟ้อปรับขึ้นชั่วคราวจากฐานปีก่อนต่ำ และไม่ได้กดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องเองปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือปรับลด QE บ่งชี้ว่าตลาดคลายกังวลเรื่องเฟด

ขณะที่ เช้านี้ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่า เป็นไปได้ Fund Flow ไหลเข้ามาเอเชีย ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นต่อเนื่องโดยเมื่อคืนยืนเหนือ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ก็จะเป็นส่วนช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน

และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการขยายเวลาให้ธนาคารพาณิชย์ลดการนำส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) เหลือ 0.23% จาก 0.46% จากที่สิ้นสุดปี 64 ต่อไปเป็นปีหน้า ซึ่งจะทำให้กำไรของแบงก์เพิ่มขึ้น 2-5% รวมทั้ง อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกได้ แต่ไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิ

ปัจจัยเหล่านี้เป็นบวกต่อกลุ่มแบงก์ โดยเฉพาะแบงก์ใหญ่ อาทิ BBL, SCB, KBANK และแบงก์ที่จ่ายปันผลสูง TISCO, KKP

ตลาดหุ้นไทยขณะนี้กองทุนในประเทศซื้อ-ขายสลับกับนักลงทุนต่างประเทศ โดยการที่นักลงทุนต่างประเทศกลับเข้ามาซื้อทำให้หุ้นขนาดใหญ่ปรับขึ้น โดยมองว่าหุ้นวัฏจักรเศรษฐกิจจะกลับมาในช่วงที่เหลือของเดือน มิ.ย.นี้ ได้แก่ แบงก์ พลังงาน และค้าปลีก

ขณะที่ประเด็นเรื่องวัคซีนโควิดในประเทศก็ทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ล่าสุด รัฐบาลได้ทำสัญญาจองซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส รวมทั้งคาดว่าจะมีการฉีดวัคซีนได้ครอบคลุม 50% ของประชากรและจะกลับมาเปิดประเทศได้เต็มรูปแบบในปี 65

พร้อมให้แนวรับที่ 1,620 และ 1,618 จุด แนวต้านให้ที่ 1,630 และ 1,636 จุด

 

สถานการณ์ต่างประเทศ

หุ้นเอเชีย ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,614.11 จุด เพิ่มขึ้น 3.25 จุด หรือ +0.09%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 29,030.04 จุด เพิ่มขึ้น 71.48 จุด หรือ +0.25% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 28,864.90 จุด เพิ่มขึ้น 126.02 จุด หรือ +0.44%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกว่า การพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐจะเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราวและจะไม่ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในระยะนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะหุ้นไฟเซอร์ที่พุ่งขึ้นกว่า 2%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,466.24 จุด เพิ่มขึ้น 19.10 จุด หรือ +0.06% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,239.18 จุด เพิ่มขึ้น 19.63 จุด หรือ +0.47% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,020.33 จุด เพิ่มขึ้น 108.58 จุด หรือ +0.78%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นปิดที่เหนือระดับ 70 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) ขานรับข้อมูลแรงงานที่สดใสของสหรัฐ รวมทั้งรายงานคาดการณ์ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ระบุว่าความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นในปีนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 70.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 72.52 ดอลลาร์/บาร์เรล

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ