คนละครึ่งเฟส 3 ให้ 3,000 น้อยไป ชงเพิ่มเป็น 6,000 บาท เช็กลงทะเบียนรับสิทธิ 2 แบบ
ลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 3 ดีเดย์ 14 มิ.ย.รับสมัคร ครม.ไฟเขียว 4 มาตรการเยียวยาโควิด
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 หรือคนละครึ่งเฟส 3 จะเปิดให้ประชาชนผู้สนใจลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 3 วันแรกในวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป โดยประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับสิทธิภาครัฐร่วมจ่ายร้อยละ 50 สำหรับค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป และค่าบริการ (นวด สปา ทำผมทำเล็บ ค่าเดินทางโดยบริการขนส่งสาธารณะหรือขนส่งมวลชนสาธารณะ) ยกเว้นสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ
สิทธิคนละครึ่งเฟส 3 ให้สิทธิคนละ 3,000 บาท ใช้จ่ายเท่าไหร่ คนละครึ่งจ่ายให้ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน
สิทธิคนละครึ่งเฟส 3 จ่ายให้ 2 รอบ หรือ 2 งวด รอบแรกตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 ใช้สิทธิคนละครึ่งได้ 1,500 บาท
รอบที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ให้สิทธิคนละ 1,500 บาทครบ 3,000 บาท ใช้ได้ตลอดระยะเวลาโครงการ
กระทรวงการคลัง ย้ำว่า คุณสมบัติผู้รับสิทธิคนละครึ่งคนละครึ่งเฟส 3 มีดังนี้
1.ประชาชนสัญชาติไทยที่มีบัตรประจำตัวประชาชน
2.อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
3.ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจน
4.ไม่เป็นได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ(ตามสิทธิโครงการเราชนะ)
5. ไม่ใช้สิทธิโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้
สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.64 เป็นต้นไป เวลา 06.00 น. - 22.00 น. จนกว่าจะครบจำนวนไม่เกิน 31 ล้านคน
วิธีการลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 3
- ผู้ที่เคยรับสิทธิโครงการของรัฐ อาทิ ชิมช้อปใช้ เราเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง เราชนะ ม.33เรารักกัน หรือที่เคยใช้บริการกระเป๋าตังสุขภาพ หรือ วอลเล็ต สบม. สามารถลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 3 ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งเป็นการยืนยันเข้าร่วมโครงการ หรือจะลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com ก็ได้
ทั้งนี้ผู้ที่รับสิทธิิคนละครึ่งเฟส 1 และเฟส 2 มาแล้ว สามารถรับสิทธิคนละครึ่งเฟส 3 ได้อีก โดยลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 3 ยืนยันร่วมโครงการในแอปฯเป๋าตัง หรือ เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com
วิธีลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 3 ใช้สิทธิ และยืนยันตัวตนในแอปฯเป๋าตัง
- สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการดังกล่าวข้างต้น สามารถลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 3 ผ่าน เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com
วิธีลงทะเบียนผ่านคนละครึ่งเฟส 3 ผ่าน www.คนละครึ่ง.com ยืนยันตัวตนและใช้สิทธิ
เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว จะได้รับ SMS แจ้งสิทธิภายใน 3 วัน จากนั้น ขอให้ท่านยืนยันตัวตนผ่านช่องทาง ได้แก่
- 1. ผู้ที่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน (ธนาคารกรุงไทยฯ) แล้ว สามารถสแกนใบหน้าเพื่อใช้งานแอปพลิเคชันได้เลย
- หรือ 2. ผู้ที่มีแอปพลิเคชัน KrungthaiNext สามารถยืนยันตัวตนผ่าน KrungthaiNext ได้
- หรือ 3. ผู้ที่ไม่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนกับธนาคารกรุงไทยฯ ให้นำบัตรประจำตัวประชาชนไปยืนยันตัวตนที่สาขาหรือตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยฯ และสแกนใบหน้าอีกครั้งหนึ่งก็จะเสร็จสมบูรณ์
เมื่อยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้วจะสามารถใช้จ่ายสิทธิคนละครึ่งเฟส 3 กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ในเวลา 06.00 น. – 23.00 น.
กรณีผู้รับสิทธิคนละครึ่งเฟส 3 แล้ว หากต้องการจะเปลี่ยนไปรับสิทธิโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” จะต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ภายในวันที่ 28 มิถุนายน 2564 เวลา 22.00 น. ซึ่งถือเป็นการสละสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ที่ได้รับสิทธิทันที
สำหรับผู้ประกอบการทั่วไป (ผู้ประกอบการร้านค้าทั่วไป ผู้ประกอบการบริการนวด สปา ทำผมทำเล็บ ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ ที่มีสัญชาติไทยไม่เป็นนิติบุคคลและไม่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์) ผู้ประกอบการของกองทุนหมูบ้านหรือชุมชนเมืองหรือวิสาหกิจชุมชน ร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และผู้ให้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะ ที่สนใจเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ใน www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป เวลา 06.00 น. – 22.00 น.
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าทั่วไปและผู้ประกอบการบริการนวด สปา ทำผมทำเล็บ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ในวันและเวลาเดียวกัน โดยผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมมาตรการ โครงการอื่นของรัฐที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” แล้ว ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการ โครงการอื่นลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www. คนละครึ่ง .com หรือ www. ยิ่งใช้ยิ่งได้ .com ตามที่ต้องการเข้าร่วม หรือลงทะเบียนผ่านทางสาขา หรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทยฯ โดยธนาคารกรุงไทยฯ จะช่วยติดตั้งและแนะนำการใช้แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อรับชำระเงินจากการขายสินค้า