หุ้นไทย (17 มิ.ย.64) ปิดการซื้อขาย 1,617.65 จุด -7.14 จุด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หุ้นไทย (17 มิ.ย.64) ปิดการซื้อขาย 1,617.65 จุด -7.14 จุด (-0.44%) มูลค่าการซื้อขาย 88,017.63 ล้านบาท

นายวิจิตร อายะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยในช่วงเช้าตลาดฯปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดหุ้นเอเชียที่ติดลบ ขานรับนายกรัฐมนตรีประกาศเป้าหมาย 120 วันเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเต็มรูปแบบ แต่ช่วงบ่ายดัชนีฯอ่อนลงมาแกว่งในแดนลบเช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก ทั้งตลาดหุ้นเอเชีย และตลาดยุโรปต่างก็ติดลบ รวมถึงดาวโจนส์ฟิวเจอร์สติดลบกว่า 100 จุดด้วย

เปรียบเทียบระบบจองวัคซีนโควิด-19 แต่ละประเทศ ยากง่ายต่างกันอย่างไร

ศบค.ห่วง “สมุทรปราการ” คลัสเตอร์ใหม่ผุดรายวัน เชียงรายพบ 23 ราย โยงโควิด-19 ชลบุรี

 

รับแรงกดดันจากผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 66 ที่คาดว่าจะปรับขึ้น 2 ครั้ง ซึ่งก็มองไว้อยู่แล้วว่าท้ายที่สุดก็ต้องเจอกับเรื่องนี้

ทั้งนี้ ประเด็นการเปิดประเทศก็ต้องติดตามว่านรัฐบาลจะสามารถเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ตามแผนที่วางไว้หรือไม่ ซึ่งเท่าที่ดูคนก็ยังไม่มั่นใจท่าไร และหากไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ก็อาจจะมีผลกระทบต่อแผนการเปิดประเทศ ดังนั้น ช่วงบ่ายนี้ดัชนีฯจึงปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยคงจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway Down เนื่องจากตลาดฯยังไม่มีปัจจัยขับเคลื่อน พร้อมให้แนวรับ 1,605 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 3,424.43 ล้านบาท ปิดที่ 16.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท

IVL มูลค่าการซื้อขาย 3,017.38 ล้านบาท ปิดที่ 41.25 บาท ลดลง 2.25 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,444.73 ล้านบาท ปิดที่ 124.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 2,368.02 ล้านบาท ปิดที่ 4.26 บาท ลดลง 0.12 บาท

AAV มูลค่าการซื้อขาย 2,346.41 ล้านบาท ปิดที่ 3.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท

หุ้นไทย (17 มิ.ย.64) ปิดการซื้อขายเช้า 1,628.80    จุด เพิ่มขึ้น +4.01 จุด (+0.25%) มูลค่าการซื้อขาย 47,415.63 ล้านบาท

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ติดลบ โดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงแรงหลังจะล็อกดาวน์ต่อ ขณะที่มองว่าผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกมาไม่น่าวิตกมากนัก แม้จะมีการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจะปรับลดการทำ QE

ค่าตอบแทน จนท.สาธารณสุข ค้างจ่ายเกือบ 1 ปี

นอกจากนั้น ตลาดหุ้นไทยถูกขายออกมาก่อนหน้านี้แล้วเพื่อลดความเสี่ยง ทำให้วันนี้มีแรงซื้อกลับเข้ามาบ้าง

“หมอนิธิพัฒน์” ห่วงโควิดระลอกสี่ หลังนายกฯ จ่อเปิดประเทศใน 120 วัน สวนทางติดเชื้อพุ่ง

ประกอบกับได้รับแรงหนุนจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ประกาศเป้าหมาย 120 วันเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามปกติ

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายมงคล กล่าวว่า ตลาดฯคงแกว่งทรงตัว และมีโอกาสเผชิญแรงขายทำกำไร ทำให้ดัชนีฯอาจจะแกว่งทั้งในแดนบวก-ลบไม่มาก พร้อมให้แนวรับ 1,625-1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,635 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,386.76 ล้านบาท ปิดที่ 16.30 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

AAV มูลค่าการซื้อขาย 1,677.86 ล้านบาท ปิดที่ 3.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.42 บาท

GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 1,442.14 ล้านบาท ปิดที่ 4.36 บาท ลดลง 0.02 บาท

SCGP มูลค่าการซื้อขาย 1,429.65 ล้านบาท ปิดที่ 58.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,232.90 ล้านบาท ปิดที่ 125.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

หุ้นไทย (17 มิ.ย.64) เปิดการซื้อขาย 1,624.82 จุด เพิ่มขึ้น  +0.03 จุด (+0.00    %) มูลค่าการซื้อขาย 11,209.50 ล้านบาท เฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย ปี 2566 ถึง 2 ครั้ง ซึ่งเร็วกว่าคาดการณ์ 1 ปี

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway Down โดยตลาดมีโอกาสที่จะปรับฐานเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างปรับตัวลงราว -0.2% ถึง -1.0% หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ 1 ปี และยังคาดว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 2 ครั้งในปี 2566

ประกาศ อนุมัติ พ.ร.ก.เงินกู้โควิดเพิ่มอีก 500,000 ล้านบาท

ดีเดย์ “สลากซื่อสัตย์”งวดแรก1ก.ค.แก้หวยแพง

นอกจากนี้ เฟดยังได้เริ่มหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่านโยบายการเงินเริ่มปรับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ดังนั้นตลาดฯคงจะต้องปรับเปลี่ยนการลงทุนไปด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,610-1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,633-1,637 จุด

ด้าน บล.ไทยพาณิชย์  วิเคราะห์ เคลื่อนไหวในกรอบ 1613-1636 จุด ปัจจัยบวกลบคละเคล้า

กลยุทธ์การลงทุน : คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1613-1636 จุด โดยวันนี้คาดเผชิญปัจจัยบวกลบคละเคล้า โดยปัจจัยลบมาจากผลประชุมเฟดที่จะขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นเป็นในปี 2566 จากปี 2567 และกำลังหารือเรื่องลด QE ส่วนปัจจัยบวกเป็นเรื่องนายกฯ เตรียมเปิดประเทศภายใน 120 วัน ด้านภาพรวม SET ยังอยู่ในช่วงพักตัว โดยกรอบบนถูกจำกัดบริเวณ 1640 จุด กลยุทธ์ในช่วงนี้ ใช้การเข้าซื้อแบบ Selective Buy และใช้ความระมัดระวัง

ล็อคเป้าลงทุน:

theme การลงทุน 1) หุ้น big cap เป้าหมาย fund flow ไหลเข้า PTT KBANK SPALI 2) หุ้น reopening รอเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว BEM CPN CRC ZEN 3) หุ้น mid-small cap คาดกำไรดีต่อเนื่อง PM TPAC WICE SFT CPW

แนะนำ CRC คาดกำไร 2Q64 ฟื้นตัว YoY หนุนจาก SSS เติบโต ส่วนกำไร 2H64 ได้แรงหนุนจากโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ รวมทั้งการเตรียมเปิดเมือง และแนะนำ CPW คาดกำไร 2Q64 โต 100%YoY ธุรกิจ IT Distributor ฟื้นตัวเด่น ส่วน 2H64 คาดโตต่อเนื่อง จากกำลังซื้อที่ฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการแพร่ระบาดคลี่คลายลง

สถานการณ์ต่างประเทศ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวล หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ 1 ปี ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดเปิดเผยว่า กรรมการเฟดได้เริ่มหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,033.67 จุด ลดลง 265.66 จุด หรือ -0.77% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,223.70 จุด ลดลง 22.89 จุด หรือ -0.54% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,039.68 จุด ลดลง 33.17 จุด หรือ -0.24%

ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 29,149.34 จุด ลดลง 141.67 จุด หรือ -0.48% หุ้นที่ปรับตัวลงในช่วงเช้านี้นำโดยกลุ่มขนส่งทางอากาศ, กลุ่มบริการ และกลุ่มเครื่องจักร

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,508.32 จุด ลดลง 10.01 จุด หรือ -0.28%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 29,149.34 จุด ลดลง 141.67 จุด หรือ -0.48% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 28,240.88 จุด ลดลง 195.96 จุด หรือ -0.69%

ดัชนีฮั่งเส็งเปิดวันนี้ที่ 28,240.88 จุด ลดลง 195.96 จุด หรือ -0.69%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ 1 ปี

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 72.15 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 74.39 ดอลลาร์/บาร์เรล

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ