เป็นเรื่อง เป็นข่าว สเปเชียล : แนวการบริหารเศรษฐกิจไทยภายใต้การแพร่ระบาดโควิด-19


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เป็นเรื่อง เป็นข่าว สเปเชียล โดยสุทธิชัย หยุ่น สัมภาษณ์พิเศษ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ถึงการบริหารเศรษฐกิจไทยช่วงโควิด-19 ทั้งมาตรการช่วยเหลือเยียวยา มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การช่วยเหลือสภาพคล่อง ซึ่งมีทั้งนโยบายแบบยิงกว้างและมุ่งเป้ากลุ่มได้รับผลกระทบโดยตรง

ตั้งแต่ที่ประเทศไทยเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ปัจจัยที่แตกต่างระหว่างการแพร่ระบาดในช่วงปี 2563 คือ ในครั้งนั้นการตัดสินใจล็อกดาวน์เศรษฐกิจ ล็อกดาวน์บ้านเมืองเกิดขึ้นเนื่องจากยังไม่มี "วัคซีน" แต่วันนี้สถานการณ์ต่างกันไป สายพันธุ์ใหม่จู่โจมมากขึ้น แต่ในแง่มุมของเศรษฐกิจ  สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน  เชื่อว่า "วัคซีน" จะเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยค่อยๆมีแนวโน้มที่ดีขึ้นได้

9 สถานที่เสี่ยงชลบุรี พบผู้ติดเชื้อ 3 ห้าง "ศูนย์โทรศัพท์-ศูนย์อาหาร-แผนกอาหารสด"  

กรกฎาสาหัส ไทยติดโควิดทะลุ 3 แสน เสียชีวิต +57 หมอรามาฯ เผยยอดจริงมากกว่านี้ ตรวจเจอในศพ!

แน่นอนว่า หากมองในภาพรวมผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดสภาพเศรษฐกิจโดยรวมวันนี้ กลุ่มที่ได้รับผลพวงมากที่สุดคือกลุ่มภาคการอุปโภค บริโภค ของประชาชน 

คนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ สร้างเงินหมุนเวียดไตรมาสสี่ 2-3 แสนล้านบาท

ซึ่งในส่วนของรัฐบาลที่ผ่านมาทั้งก่อนและหลังที่จะมีการประกาศใช้ พ.ร.ก. เงินกู้ 5 แสนล้าน เช่น โครงการคนละครึ่งระยะที่สาม โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ที่จะเข้ามาสร้างเงินหมุนเวียนในช่วงไตรมาสสี่ ประมาณ 2-3 แสนล้าน เชื่อว่าจะมาช่วยให้เกิดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในระยะยาว เข้ามาเสริมเรื่องการ อุปโภค บริโภค ให้มากขึ้น

เล็งใช้ พ.ร.ก.เงินกู้  7-8 พันล้านช่วย ร้านอาหาร สถานบันเทิง

ส่วนการใช้เม็ดเงิน พ.ร.ก. เงินกู้ 5 แสนล้านบาท จะเป็นการใช้ในมาตรการแบบ "มุ่งเป้า" นำร่องไปที่จังหวัดควบคุมเข็มงวด 10 จังหวัด  และควบคุมเข็มงวดสูงสุดอีก 6 จังหวัด ที่มีข้อกำหนดคุมเข้มร้านอาหาร สถานบันเทิง มุ่งเป้าไปที่ผู้ประกอบการ แรงงาน มาตรา 33  ซึ่งคาดว่าจะใช้เม็ดเงินกู้อีก ประมาณ 7-8 พันล้านบาท

ผู้ประกอบการ พบ รัฐมนตรี ปลอดล็อก รายย่อยเข้าถึงสินเชื่อ

ขณะเดียวกัน ในส่วนของผู้ประกอบการรายย่อยกลุ่มเอสเอ็มอีที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน  เบื้องต้น พ.ร.ก. เงินกู้ฉบับซอฟท์โลน มาตรการพักทรัพทย์ พักหนี้ ได้เปิดช่องให้ธนาคารพาณิชย์ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขอื่นๆ ได้ รวมถึงผู้ประกอบการรายใหญ่ เช่น กลุ่มสภาหอการค้า พร้อมที่จะช่วยผลักดันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยอีกทางหนึ่งเบื้องต้นสามารถเจรจาช่วยได้ 500 รายจาก 1,000 ราย

ที่สำคัญคือ พร้อมเป็นตัวกลางในการเจรจากับธนาคาพาณิชย์ในการช่วยผู้ประกิบการรายเล็ก ปลดล็อกข้อจำกัดการปล่อยสินเชื่อต่างๆ และจะเข้าหารือพร้อมกันกับ  รองนายกฯ  สุพัฒนพงษ์ เร็วๆนี้ด้วย

ส่วนผู้ประกอบการรายย่อยจริงๆ เช่น แม่ค้าร้านอาหาร หาบเร่ แผงลอย มีสินเชื่อรายย่อยจากธนาคารออมสินคอยช่วยเหลือ เช่น สินเชื่อเงินกู้ รายละ 10,000 บาท เบื้องต้นใช้งบประมาณ 20,000 ล้านบาท ช่วยเหลือได้ 2 ล้านราย และอนุมัติอีกไป 2,000 ล้าน คาดว่าจะช่วยเหลือได้ราว 10,000 กว่า

 

แต่ในอีกด้านสิ่งปรากฏชัด คือสัญญาณบวกของการผลักดัน "ภาคการลงทุน" งบประมาณการลงทุน 6 แสนล้านบาท จะถูกนำมาใช้ให้ได้ตามเป้าหมาย เช่นเดียวกันการลงทุนภาคเอกชนที่เริ่มเห็นสัญญาณบวกต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาสหนึ่ง เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่า หากมีวัคซีนในมือ เท่ากับ ในอนาคตเมื่อการแพร่ระบาดจบลง เศรษฐกิจก็จะกลับมาขับเคลื่อนได้เช่นเดม

นักลงทุน ภาคเอกชนเข้าใจว่ามีการแพร่ระบาด แต่พอมีวัคซีนจะรู้ว่ามีวันจบ ซึ่งเมื่อเมื่อเทียบกับปี 63 ไม่มีวัคซีน ต่อให้ป้องกันแค่ไหน แต่ยังไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ มันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะฉะนั้นพอมีวัคซีน เรื่องของการลงทุน ภาคเอกชน เริ่มเห็นสัญญาณดี การส่งออกก็ดี 

ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวทั่วโลกประสบปัญหาเดียวกัน แต่สำหรับประเทศไทยการตัดสินใจเปิด ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ คือการทำให้ทั่วโลกได้เห็นว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะมีการบริหารจัดการในการป้องกันได้ดีมาก ซึ่งในช่วง 5 วันที่ผ่านมา สามารถควบคุม ดูแลได้ และหากได้รับการบอกต่อจากนักท่องเที่ยวประเทศไทยก็จะได้รับผลบวกมากขึ้น

อีกด้านหนึ่ง รองนายกฯ  สุพัฒนพงษ์ ระบุว่า จากนี้การท่องเที่ยวอาจไม่ได้เน้นที่ปริมาณ หรือจำนวนนักท่องเที่ยว แต่เราคัดกรองกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ เฉลี่ยการใช้จ่ายต่อหัวหลักแสนบาท ซึ่งสูงกว่าในอดีตถึง 3 เท่า ด้วยมาตราการคุมเข้มต่างๆ ที่กไทยกำหนดเพื่อคัดกรอง นั่นหมายความว่า เราไม่ต้องการนักท่องดที่ยวปริมาณมากเท่าเดิม เราต้องกา 1 ใน 3  หรือ 1 ใน 4  ก็อาจจะสร้างรายได้เท่าๆ กับรายได้เดิมที่เราได้ 

เราไม่ต้องการนักท่องเที่ยว 30-40 ล้านคน มาภูเก็ตแล้ววันนั้นการบริหารจัดการก็จะยุ่งยาก ยากลำยาก วันนี้อยู่ในระดับที่เราคัดเลือกได้ ควบคุมความปลอดภัยได้  เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเปิดภูเก็ตแซนด์บอกซ์ที่จะสู้ในเวทีสากล ทั่วโลกกำลังจับตามองว่าเราประสบความสำเร็จ ภูเก็ตก็จะกลายเป็นประตูเล็กๆ ให้นักท่องเที่ยวกลับมา และจะค่อยๆ มีประตูเล็กๆ อื่นๆ ตามมา เช่น สมุย พะงัน สุราษฎร์ธานี

พบนักท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ติดเชื้อโควิด 1 ราย ขอปชช.อย่าตื่นตระหนก

และด้วยภาพรวมการบริหารจัดการแผนวัคซีน มาตรการช่วยเหลือเยียวยา และมาตรการกระตุ้มเศรษฐกิจ ต่าง ๆ ทั้งแบบมุ่งเป้า และยิงกว้าง ทั้งหมดเหล่านี้ รองนายกฯ สุพัฒน์พงศ์ คาดว่า เศรษฐกิจไทยปีหน้า (2565) ดีกว่า ปีนี้แน่นอน  มีความเป็นไปได้จะเติบโตมากกว่า 4%

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ