หุ้นไทย (9 ก.ค.64) ปิดการซื้อขายที่ +8.42 จุด (+0.55%) ที่ระดับ 1,544.80 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 85,261.14 ล้านบาท
เปิดรายละเอียด คุมเข้ม 10 จังหวัด เคอร์ฟิว 21.00 - 04.00 น. เริ่ม 12 ก.ค.นี้
สินค้าเพียงพอไม่จำเป็นต้องกักตุน ตรึงค่าไฟ-ไข่ไก่
นายวิจิตร อายะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์หลังจากที่สัปดาห์นี้โมเมนตัมตลาดได้ถอยลงมาเรื่อย ๆ ซึ่งตลาดฯได้ตอบรับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศไปแล้วในระดับหนึ่ง
และมาตรการของภาครัฐฯในการคุมเข้มการแพร่ระบาดก็ไม่แย่ถึงขั้นล็อกดาวน์ทั้งประเทศ มีเพียงการคุมเข้มพื้นที่เสี่ยงมาก ซึ่งก็ต้องรอดูต่อไปว่ามาตรการที่ออกมานี้จะช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดได้มาก/น้อยแค่ไหน และเวลานี้วัคซีนก็ไม่ช่วยอะไร
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ติดลบ ขณะที่ตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้บวกได้ราว 0.8% เป็นการเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์หลังจากที่ได้เผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดที่มีการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ทำให้วิตกถึงการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ส่งผลให้เม็ดเงินโยกไปที่ตลาดพันธบัตร แต่ขณะนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) เริ่มทรงตัวแล้ว
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะผันผวนในกรอบแนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580 จุด โดยให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ ส่วนนอกประเทศให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่จะออกมาในวันที่ 13 ก.ค. และติดตามยอดค้าปลีกของสหรัฐฯที่ออกมาในวันที่ 16 ก.ค.นี้
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,846.11 ล้านบาท ปิดที่ 114.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 2,643.34 ล้านบาท ปิดที่ 4.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,161.95 ล้านบาท ปิดที่ 37.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,050.15 ล้านบาท ปิดที่ 92.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,958.07 ล้านบาท ปิดที่ 105.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
หุ้นไทย (9 ก.ค.64) ปิดการซื้อขายเช้าปรับขึ้น เพิ่มขึ้น 1.13 จุด (+0.07%) ที่ระดับ 1,544.80 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 50,780 ล้านบาท
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ในช่วงรอผลประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ว่าจะออกมาเข้มงวดหรือไม่ หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศยังพุ่งสูง รวมถึงรอดูจะมีการเยียวยาอย่างไร
ทั้งนี้ ถ้ามาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิดออกมาเข้มงวด ดัชนีฯก็มีโอกาสที่จะลงไปทดสอบแนว 1,507 จุด แต่ในวันนี้ให้กรอบการเคลื่อนไหวดัชนีฯไว้ที่แนวรับ 1,529 จุด แนวต้าน 1,550 จุด
ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็เคลื่อนไหวในแดนลบกันเป็นส่วนใหญ่ จากความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด ที่มีการ กลายพันธุ์ ทำให้ปัจจัยนอกประเทศก็ไม่ดีนักเช่นกัน
ด้านนายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวไซด์เวย์ทั้งในแดนบวก-ลบ โดยช่วงเช้าดัชนีฯปรับตัวขึ้นได้บ้างหลังจากที่ปรับตัวลงไปค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา ในช่วงรอผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)
สำหรับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนลบกัน จากความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ที่อาจจะกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอนาคต
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,530-1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,555 จุด พร้อมให้รอติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ และติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯในสัปดาห์หน้า
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,081.09 ล้านบาท ปิดที่ 114.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,539.12 ล้านบาท ปิดที่ 92.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 1,329.03 ล้านบาท ปิดที่ 4.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,311.44 ล้านบาท ปิดที่ 105.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,308.57 ล้านบาท ปิดที่ 37.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
หุ้นไทย (9 ก.ค.64) เปิดการซื้อขายปรับลด -1.47 จุด ที่ระดับ 1,542.20 จุด (-0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 5,386.10 ล้านบาท
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบราว 0.3-0.4% เช่นเดียวกับตลาดสหรัฐฯ จากความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ในสหรัฐฯ และยุโรปซึ่งก็มีการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสด้วย และตัวเลขเสรษฐกิจสหรัฐฯก็ออกมาไม่ดี จากตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯที่ออกมาแย่กว่าคาด รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐฯได้ปรับตัวลงมา 1.25%
หุ้นไทยวันนี้ (8 ก.ค.64) ดิ่งลึก 32.93 จุด นักลงทุนมองมีความเป็นได้รัฐใช้ยาแรงคุมโควิดเหมือนปี 63
วิกฤต! ติดเชื้อโควิด-19 พุ่ง 9,276 รายเสียชีวิต 72 ราย นายกฯถกศบค.วันนี้ “จับตาล็อกดาวน์”
ส่วนบ้านเราก็มีความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับต่างประเทศ และวันนี้ก็ต้องติดตามผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่จะพิจารณาสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดในประเทศ และมีประเด็นการออกมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาด แต่ตลาดฯน่าจะตอบรับไปบางส่วนแล้ว นอกจากนี้ เงินบาทวันนี้ก็อ่อนค่ามาก ซึ่งจะไปกดดัน Fund Flow ให้ไหลออก
อย่างไรก็ดี วันนี้ให้ติดตามการประชุมรัฐมนตรีคลังของกลุ่ม G20 และติดตามตัวเลขการส่งออกของสหรัฐฯ รวมถึงติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของจีน พร้อมให้แนวรับ 1,530-1,520 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550-1,555 จุด
สถานการณ์อื่นๆ
เอเชีย : ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,512.23 จุด ลดลง 13.27 จุด หรือ -0.37, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,739.42 จุด ร่วงลง 378.61 จุด หรือ -1.35% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,131.57 จุด ลดลง 21.56 จุด หรือ -0.07%
ตลาดหุ้นสหรัฐ : ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,421.93 จุด ลดลง 259.86 จุด หรือ -0.75% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,320.82 จุด ลดลง 37.31 จุด หรือ -0.86% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,559.78 จุด ลดลง 105.28 จุด หรือ -0.72%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 72.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 74.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
