นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวในแดนลบเล็กน้อยเป็นส่วนใหญ่ จากความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่วันนี้จำนนผู้ติดเชื้อโควิดทะลุ 17,000 รายเป็นวันที่สอง ทำให้มองถึงการล็อกดาวน์ที่เข้มขึ้นในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) วันนี้
อุปทูตสหรัฐฯ ย้ำ วัคซีนไฟเซอร์ ควรให้บุคลากรทางการแพทย์-ผู้สูงอายุ
ชี้ช่องวางแผนการเงิน “เก็บเงินให้อยู่-อดใจไม่ช้อป” ปูทางสู่วัยเกษียณ
ส่งผลให้หุ้นที่อิงปัจจัยในประเทศต่างปรับตัวลง ไม่ว่าจะเป็นหุ้นในกลุ่มธนาคาร, ท่องเที่ยว, ค้าปลีก, ศูนย์การค้า และการขนส่ง เป็นต้น
ทั้งนี้ ตลาดฯให้น้ำหนักกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และหุ้นเฉพาะตัวที่มีข่าว อย่างหุ้น TOP ที่ประกาศซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ บริษัท Chandra Asri (CAP) ปิโตรเคมีประเทศอินโดนีเซีย ใช้เงินราว 39,000 ล้านบาท ทำให้ TOP ต้องเพิ่มทุนหมื่นล้านบาท และยังต้องขาย GPSC อีก ทำให้ตลาดฯมองลบต่อดีลนี้ ส่งผลให้หุ้น TOP ร่วงแรงในเช้านี้ ส่วนหุ้น DTAC ก็มีการเล่นเก็งกำไรไปเมื่อวานนี้จากเรื่องที่ "เทเลนอร์" จะถอนการลงทุนในไทย ซึ่งเรื่องนี้พูดมาหลายปี และก็หายไป ดังนั้นจะต้องระวังด้วย เพราะมองว่าคงจะไม่ง่ายที่จะขายแม้อยากจะขายก็ตาม ด้านหุ้น SCC ก็เล่นเรื่องงบฯออกมาดี และยังจ่ายปันผลด้วย
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายพิชัย กล่าวว่า ตลาดฯคงจะซึม ๆ แต่เมื่อดัชนีฯหลุด 1,530 จุดทำให้สัญญาณทางเทคนิคเป็นลบ และมีแนวรับถัดไปที่ 1,516 จุด ส่วนแนวต้าน 1,535 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TOP มูลค่าการซื้อขาย 2,443.98 ล้านบาท ปิดที่ 43.25 บาท ลดลง 3.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,531.22 ล้านบาท ปิดที่ 35.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,452.82 ล้านบาท ปิดที่ 420.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
DTAC มูลค่าการซื้อขาย 1,345.93 ล้านบาท ปิดที่ 35.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,339.40 ล้านบาท ปิดที่ 102.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
หุ้นไทยวันนี้ (30 ก.ค.64) เปิดการซื้อขายเช้า 1,533.63 จุด ลดลง -4.15 จุด (-0.27%) มูลค่าการซื้อขาย 12,734.68 ล้านบาท คาด ปรับตัวลงทิศทางเดียวกับหุ้นเอเชีย ในประเทศยังจับตาขยายล็อกดาวน์หรือไม่ หลังยอดผู้ติดเชื้อยังสูง
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ คาดว่า จะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกันทั่วหน้า หลังจากที่ได้ตอบรับผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไปแล้วในระดับหนึ่ง แต่นักลงทุนยังมีความกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 และกังวลจีนแทรกแซงกลุ่มเทคโนโลยี ส่งผลให้ตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นจีนยังปรับตัวลงนำตลาดอื่นในภูมิภาค
ราคาทองวันนี้ – 30 ก.ค. 64 เปิดตลาดบวก 100 บาท รูปพรรณบาทละ 28,900 บาท
“อนุทิน” รับมอบ วัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส ขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ
นอกจากนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ก็ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจในภูมิภาคลงด้วย นักลงทุนจึงโยกเงินไปเล่นที่ฝั่งสหรัฐฯ และยุโรปกัน ทำให้ตลาดสหรัฐฯ และยุโรปเวลานี้ถือว่าดีมาก
ส่วนบ้านเรายังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อยู่ จากที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ต้องจับตาการขยายมาตรการล็อกดาวน์หลังผ่าน 14 วันไปแล้ว จะออกมาเป็นอย่างไร พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป ซึ่งอาจมีแรงเก็งกำไรหุ้นที่งบฯออกมาดี และให้ปันผลดีที่ด้วย อย่างหุ้น SCC ให้ปันผลดี รวมถึงอาจมีแรงเก็งกำไรประเด็น M&A แม้จะยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนออกมา
ทั้งนี้ ดัชนีฯไม่ควรหลุดแนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,545-1,550 จุด
สถานการณ์อื่นๆ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (29 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,084.53 จุด เพิ่มขึ้น153.60 จุด (+0.44%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,419.15 จุด เพิ่มขึ้น 18.51 จุด (+0.42%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,778.26 จุด เพิ่มขึ้น 15.68 จุด (+0.11%)
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 13.52 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 104.53 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 272.48 จุด
เงินบาทเปิด 32.86 แข็งค่าตามภูมิภาค หลังตัวเลขศก.สหรัฐฯกดดอลล์อ่อน จับตา Flow สิ้นเดือน
