ระบบเก็บค่าผ่านทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือ มอเตอร์เวย์ จะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ทางด้วยการเพิ่มช่องเก็บค่าผ่านทางเป็นแบบ AI ภายใต้ชื่อ ระบบ M-Flow โดยไม่มีไม้กั้นและมาจัดเก็บค่าผ่านทางในภายหลังโดยหักผ่านบัตรเครดิต-บัตรเดบิต หรือ บัญชีธนาคาร และสามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายเป็นรายครั้ง หรือ เป็นรายเดือน เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดหน้าด่านเก็บค่าผ่านทาง และ ลดการสัมผัสเงิน ในสังคมไร้เงินสด โดยจะเริ่มเปิดให้ประชาชนทดลองใช้ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
"ศักดิ์สยาม"สั่ง ยกเลิกไม้กั้นด่านเก็บเงินทางด่วนแก้รถติดหน้าด่าน
กรมทางหลวง ลั่น! จยย.ขึ้นสะพานไม่ได้ เพราะไม่ปลอดภัย
ระบบ M Flow คืออะไร สรุปง่ายๆ ได้ดังนี้
1.ไม่ต้องทนติดหน้าด่าน เพราะเป็นระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (Free Flow) เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบนทางด่วนและมอเตอร์เวย์ โดยใช้เทคโนโลยี AI มาพัฒนาระบบจัดเก็บค่าผ่านทาง เมื่อรถวิ่งผ่านด่านจะบันทึกด้วยกล้องตรวจบันทึกภาพป้ายทะเบียนรถ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลแบบ Video Tolling แทนการเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบระบบไม้กั้น ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาต่อแถวจ่ายเงิน หรือ รอไม้กั้นเปิด
2.ไม่ต้องชะลอความเร็ว ผู้ใช้รถยนต์สามารถขับขี่ผ่านบริเวณด่านฯ โดยไม่ต้องหยุดหรือชะลอรถ ด้วยความเร็วได้ถึง 160 กม./ชม. ช่วยระบายรถได้ 2,000 -2,500 คัน/ชม./ช่องทาง เร็วขึ้นกว่าระบบเดิมที่ใช้อยู่ถึง 5 เท่า รองรับการใช้งานกับรถยนต์ทุกประเภทที่ได้รับอนุญาตให้วิ่งบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์ ทั้งรถยนต์ 4 ล้อ รถยนต์ 6 ล้อ และรถยนต์มากกว่า 6 ล้อขึ้นไป
3.ไม่ต้องเตรียมเงิน วิ่งก่อน จ่ายทีหลัง เมื่อสมัครใช้บริการ และ วิ่งผ่านด่าน ระบบจะบันทึกข้อมูลไว้ และสามารถชำระค่าธรรมเนียมผ่านวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หลังการใช้บริการ หรือ ระบบ Post Paid ทั้งแบบชำระเป็นรายครั้งหรือชำระตามรอบบิล รวมไปถึงการชำระผ่านเว็บไซต์หรือโมบายแอปพลิเคชั่นของระบบ M-Flow ชำระด้วยระบบ QR Code และชำระผ่านระบบตัดเงินอัตโนมัติ
โดยในปี 2564 นี้ ผู้ใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 ของกรมทางหลวง และทางพิเศษฉลองรัช ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จะได้เริ่มทดลองใช้เป็นกลุ่มแรก
สมัครใช้บริการอย่างไร
สำหผู้ประสงค์จะใช้ระบบ M-Flow จะต้องลงทะเบียนเพื่อใช้บริการก่อนเท่านั้น ซึ่งสามารถสมัครได้ง่ายๆ ผ่านทา
1. WebSite : www.mflowthai.com
2. Mobile Application : Mflow
3. จุดบริการที่กรมทางหลวงกำหนด
- แจ้งข้อมูลส่วนบุคคลพร้อมยืนยันตัวตนด้วยหมายเลขโทรศัพท์มือถือ แจ้งที่อยู่ติดต่อ อีเมล แจ้งหมายเลขทะเบียนรถที่จะนำมาใช้
- แจ้งวิธีการชำระเงิน ว่าจะเลือกชำระเงินเป็นรายครั้งหรือรายเดือน
- เลือกรูปแบบชำระเงินที่ต้องการ ซึ่งมีทั้งรูปแบบการชำระเงินผ่านระบบอัตโนมัติ เช่น การตัดเงินจากบัตรเครดิต การตัดเงินจากบัญชีธนาคาร การตัดเงินจากบัญชีเติมเงินของระบบ EasyPass/M-Pass และ รูปแบบการชำระเงินด้วยตนเองผ่านหลากหลายช่องทางที่สะดวก เช่น จ่ายเงินด้วย QR-Code โมบายแอปพลิเคชันธนาคาร จ่ายผ่านเว็บไซต์ด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต เคาน์เตอร์ธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม เคาน์เตอร์เซอร์วิส
สำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ทางด่วนหรือมอเตอร์เวย์เป็นประจำสามารถเลือกวิธีการชำระเงินเป็นรายครั้ง ซึ่งกรมทางหลวงจะแจ้งเก็บค่าธรรมเนียมการใช้บริการระบบ M-Flow เป็นรายครั้งไปยังผู้ลงทะเบียนตามข้อมูลที่แจ้งไว้ โดยจะแจ้งยอดเงินค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระและวันที่ครบกำหนดเวลา
ชำระค่าธรรมเนียม ซึ่งมีกำหนดให้ชำระค่าธรรมเนียมภายในระยะเวลา 2 วัน นับถัดจากวันที่มีการใช้บริการแต่ละครั้ง ผู้ใช้บริการสามารถชำระเงินตามรูปแบบที่เลือกไว้ในขั้นตอนการลงทะเบียนได้ค่ะ
ถ้าไม่ได้ลงทะเบียนแล้วใช้ช่อง M-Flow มีความผิดตามกฎหมาย
หากไม่ได้ลงทะเบียนเพื่อสมัครใช้งานระบบ M-Flow และ ฝ่าฝืนเข้ามาใช้ช่องทางของระบบ M-Flow กรมทางหลวงก็มีช่องทางสำหรับแจ้งและชำระค่าบริการ โดยจะต้องชำระค่าบริการตามเงื่อนไขที่กรมทางหลวงกำหนด ซึ่งหากไม่ติดต่อขอชำระค่าผ่านทางตามวิธีการที่กรมทางหลวงกำหนด เพื่อแสดงว่าไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าผ่านทาง กรมทางหลวงจะบูรณาการข้อมูลกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อแจ้งไปยังเจ้าของหมายเลขทะเบียน โดยกรมทางหลวงจะออกหนังสือติดตามให้บุคคลดังกล่าวมาชี้แจงและชำระค่าผ่านทางและค่าปรับต่อไปรวมถึงส่งข้อมูลให้เจ้าพนักงานจราจรออกใบสั่งฐานความผิดฝ่าฝืนป้ายบังคับห้ามรถยนต์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนใช้ช่องทางระบบ M-Flow ต่อไปค่ะ
เตรียมเปิดทองใช้ในเดือนต.ค.นี้
ล่าสุดนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของการให้บริการ พบว่าโดยรวมของระบบมีความพร้อมสำหรับการเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการแล้ว โดยกรมทางหลวงมีกำหนดที่จะทดสอบระบบเสมือนจริงแบบครบวงจร (Soft Opening) ในช่วงเดือนตุลาคม 2564 นี้ โดยคาดว่าระบบ M-Flow จะพร้อมเปิดบริการเต็มรูปแบบในปี 2565 โดยเปิดให้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 ครบทั้ง 4 ด่าน ได้แก่ ด่านทับช้าง 1 ด่านทับช้าง 2 ด่านธัญบุรี 1 และด่านธัญบุรี 2 ในช่วงเดือนมกราคม ปี 2565 ทางพิเศษฉลองรัช ระยะแรก จำนวน 3 ด่าน ได้แก่ ด่านจตุโชติ ด่านสุขาภิบาล 5-1 และด่านสุขาภิบาล 5-2 คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 ส่วนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 กรุงเทพฯ-บ้านฉาง และทางพิเศษฉลองรัช ระยะที่ 2 บูรพาวิถี และกาญจนาภิเษก คาดว่าจะสามารถเปิดทดสอบระบบได้ในช่วงปี 2566
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า สำหรับการทดสอบแบบเสมือนจริงจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเป็นสมาชิก เพื่อทดลองใช้บริการและมีส่วนร่วมในการทดสอบเสมือนจริง นอกจากนี้กรมทางหลวงยังได้เตรียมที่จะมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ (Promotion) เพื่อเชิญชวนให้ผู้ใช้ทางเข้ามาใช้ระบบ M-Flow ให้มากที่สุด