"หอการค้าไทย" ยื่นข้อเสนอเปิดเมืองทยอยคลายล็อกตามพื้นที่โซนสี


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ภาคเอกชนเสนอคลายล็อกตามโซนพื้นที่แพร่ระบาด เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าได้ พื้นที่สีแดงยังคุมเข้มจำกัดจำนวนคน และให้ใช้ Covid Pass แสดงตัวก่อนใช้บริการ

ในขณะที่ศบค.ชุดใหญ่ เตรียมจัดประชุมเพื่อพิจารณามาตรการคลายล็อกให้ภาคธุรกิจและบริการต่างๆ ล่าสุดหอการค้าไทยเสนอมาตรการคลายล็อกกิจการในพื้นที่ต่างๆ โดยแบ่งการคลายล็อกตามโซนสี หรือ ตามระดับการแพร่ระบาดของโควิด-19 หากเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ให้คงความเข้มงวดในการเปิดให้ใช้บริการ ทั้งร้านอาหารและศูนย์การค้าจะต้องมีดิจิทัล เฮลท์ พาส แสดงว่ารับวัคซีนแล้วหรือผ่านการตรวจโควิดด้วยชุดตรวจแบบ ATK แล้ว ส่วนสถานบันเทิงยังให้ปิดต่อไม่มีกำหนด

หอการค้าไทยเสนอเร่งฉีดวัคซีนให้ภาคแรงงานคุมการแพร่ระบาดโควิด-19

สธ.ขอให้ฟัง! ชงยกระดับสีแดงเข้ม - ล็อกดาวน์ โควิดหนัก จับตากทม.อีก 2 วัน - เตียงไอซียูส่อวิกฤต

 

นายสนั่น  อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทย และคณะทำงานกลุ่มมาตรการสำหรับการกลับมาเปิดธุรกิจใหม่ (Business Resume) มีข้อเสนอเปิดเมืองปลอดภัย เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเสนอให้ผ่อนคลายกิจกรรมทางธุรกิจ ให้สามารถกลับมาดำเนินการได้ แบ่งตามพื้นที่โซนสี

พื้นที่สีแดง

- สถานที่เล่นกีฬา ให้เปิดได้เฉพาะที่เป็นที่โล่ง ไม่มีการแข่งขัน

- ร้านอาหาร ต้องมี Health Covid Pass เพื่อการบริโภคภายในร้าน เน้นว่าใช้เฉพาะร้านขนาดใหญ่ในห้องแอร์

- ศูนย์การค้า เปิดได้ตามมาตรการที่กำหนด และใช้ Health Covid Pass เฉพาะพื้นที่มีความเสี่ยงที่ต้องถอดหน้ากาก และ มีการสัมผัส

- การจัดกิจกรรมต่างๆ จำกัดคนไม่เกิน 20 คน เปิดได้ตามมาตรการที่กำหนด และใช้ Health Covid Pass

- สถานบันเทิง ปิดจนกว่าจะมีมาตรการอื่น

พื้นที่สีเหลือง

- สถานที่เล่นกีฬา เปิดได้แบบจำกัดผู้ชม

- ร้านอาหาร บริโภคในร้านได้เปิดได้ตามปกติ

- ศูนย์การค้า เปิดได้ตามมาตรการที่กำหนด- การจัดกิจกรรมต่างๆ จำกัดคนไม่เกิน 100 คน เปิดได้ตามมาตรการที่กำหนด และใช้ Health Covid Pass

- สถานบันเทิง ปิดจนกว่าจะมีมาตรการอื่น

พื้นที่สีเขียว

- สถานที่เล่นกีฬา Health Covid Pass หากมีการรวมกลุ่มจำนวนมาก

- ร้านอาหาร บริโภคในร้านได้ เปิดได้ตามปกติ

- ศูนย์การค้า เปิดได้ตามมาตรการที่กำหนด

- การจัดกิจกรรมต่างๆ จำกัดคนไม่เกิน 300 คน เปิดได้ตามมาตรการที่กำหนด และใช้ Health Covid Pass

- สถานบันเทิง ปิดจนกว่าจะมีมาตรการอื่น

ประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนเห็นตรงกันว่า การผ่อนคลายให้กิจการและธุรกิจสามารถกลับมาดำเนินการ ควรพิจารณาจากความพร้อมของพื้นที่และลักษณะของกิจการ ซึ่งสามารถใช้ข้อมูลในปัจจุบันมาเป็นตัวกำหนดความเสี่ยงของพื้นที่ใหม่แทนการพิจารณาจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพียงอย่างเดียว โดยสามารถพิจารณาจาก ความครอบคลุมของการฉีดวัคซีน (ทั้งในภาพรวมและกลุ่มเสี่ยง) ขีดความสามารถทางสาธารณสุข (จำนวนเตียงสีเหลือง/แดงที่เหลือ หรือจำนวนผู้ป่วย ICU) หรือ สัดส่วนการเสียชีวิตต่อผู้ติดเชื้อ

นายกลินท์  สารสิน ประธานอาวุโสหอการค้าไทย ในฐานะประธานคณะทำงานกลุ่มมาตรการสำหรับการกลับมาเปิดธุรกิจใหม่ ขยายความมาตรการเพิ่มเติม เรื่องความปลอดภัยของทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ โดยใช้ Digital Health Pass

Digital Health Pass สามารถนำมาใช้เพื่อตรวจสอบประวัติการได้รับวัคซีน หรือผลการทดสอบ Rapid Test ของประชาชน ผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ โดยเชื่อมข้อมูลกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยืนยันและคัดแยกว่าประชาชนนั้นไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อ โดยระบบจะตรวจสอบข้อมูลจาก Centralized Portal ซึ่งสามารถแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่

“จากการศึกษาแนวทางผ่อนคลายกิจกรรมการเปิดประเทศจากต่างประเทศ พบว่า ใช้วิธีการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับสถานการณ์การระบาด พร้อมกับการป้องกันการเสียชีวิตควบคู่กันไป และการนำระบบดังกล่าวนี้มาใช้ จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นจุดแพร่ระบาดของเชื้อใหม่ได้ ซึ่งภาคเอกชนเห็นว่า ควรใช้เฉพาะบางกิจการที่มีความเสี่ยงเท่านั้น และเห็นว่า การสื่อสารและการขอความร่วมมือจากประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ดังนั้น แนวทางที่ออกมาจึงต้องง่าย และสามารถปฏิบัติได้จริง”

  1. ผู้ออกเอกสารรับรอง (Issuers) เป็นข้อมูลจากส่วนกลางที่ระบุข้อมูล ทั้งข้อมูลการฉีดวัคซีน หรือผลการตรวจ ATK ที่จะเชื่อมโยงกับระบบปัจจุบันที่มีอยู่ได้ ซึ่งฐานข้อมูลสามารถแยกกันเก็บได้
  2. ผู้ตรวจสอบคุณสมบัติในการเข้าสถานที่ (Verifiers) เจ้าของสถานประกอบการที่เป็นคนตรวจสอบก่อนให้เข้ามาในสถานประกอบการ โดยต้องกำหนดมาตรการและเงื่อนไขการเข้าสถานที่ เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อ โดยภาครัฐควรออกแนวปฏิบัติที่ชัดเจนออกมา
  3. ประชาชนหรือบุคคลที่ขอเข้ารับบริการจากสถานที่ (Individual) ข้อมูลของแต่ละคน ที่จะต้องนำระบบ SMART PHONE หรือ QR CODE สามารถสั่งพิมพ์ออกมาได้ และเชื่อมข้อมูลไปยัง Issuers ว่าเป็นบุคคลนั้น ๆ โดยจะแสดงข้อมูลเฉพาะว่า “ผ่าน” หรือ “ไม่ผ่าน” เท่านั้น

คณะทำงานยังมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Digital Health Pass อาทิ ควรรองรับการอ่าน Vaccine Certificate ของชาวต่างชาติในอนาคตได้ และรองรับการทำงานแบบ offline เพื่อป้องกันระบบล่มเมื่อมีการใช้งานพร้อมกันมากๆ ควรมีการเข้ารหัส เพื่อป้องกันการปลอมแปลงและอ่านข้อมูล รวมทั้งระบบต้องคำนึงถึงเรื่องความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และความโปร่งใสที่สามารถตรวจสอบได้ เพื่อสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วตามสถานการณ์

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ