หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
เปิดขั้นตอน เคลมประกันโควิด-19 ลดปัญหา บ.ประกันภัย จ่ายสินไหมช้า
ไทม์ไลน์ และ แนวทาง สปสช. แจก "ATK 8.5 ล้านชุดฟรี"
GULF มูลค่าการซื้อขาย 3,522 ล้านบาท ปิดที่ 42.50 บาท เพิ่มขึ้น +1.25 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,440 ล้านบาท ปิดที่ 730.00 บาท เพิ่มขึ้น +4.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,118 ล้านบาท ปิดที่ 63.00 บาท ลดลง -1.00 บาท
MAKRO มูลค่าการซื้อขาย 2,021 ล้านบาท ปิดที่ 52.50 บาท เพิ่มขึ้น +2.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,904 ล้านบาท ปิดที่ 122.50 บาท ลดลง -1.00 บาท
หุ้นไทยวันนี้ (3 ก.ย.64) ปิดการซื้อขายเช้าเพิ้มขึ้น +3.42 จุด ที่ระดับ 1,651.17 จุด (+0.21%) มูลค่าการซื้อขาย 45,592.65 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
รอ 2-3 สัปดาห์ประเมิน "กรุงเทพแซนด์บ็อกซ์"
มีผลแล้ว! มาตรการเพิ่มช่วยลูกหนี้เจอพิษโควิด-19 ทั้ง " หนี้บัตรเครดิต-สินเชื่อส่วนบุคคล"
GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,397 ล้านบาท ปิดที่ 42.00 บาท เพิ่มขึ้น +0.75 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,367 ล้านบาท ปิดที่ 746.00 บาท เพิ่มขึ้น +20.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,338 ล้านบาท ปิดที่ 38.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
MAKRO มูลค่าการซื้อขาย 1,235 ล้านบาท ปิดที่ 52.25 บาท เพิ่มขึ้น +1.75 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,189 ล้านบาท ปิดที่ 63.00 บาท ลดลง -1.00 บาท
หุ้นไทยวันนี้ (3 ก.ย.64) เปิดการซื้อขายแดนบวก เพิ่มไป +9.62 จุด จับตาการเมืองในประเทศ
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าบวกได้ต่อ โดยจะเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 1,650 จุด ยังไม่ปรับขึ้นหรือลงแรง เนื่องจากว่าหุ้นใหญ่ขึ้นมาพอสมควรแล้ว อีกทั้งตลาดยังคงรอตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯคืนนี้ เพื่อให่เห็นทิศทางการปรับนโยการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ราคาทองวันนี้ – 3 ก.ย. 64 ปรับราคาครั้งที่ 2 บวกขึ้นมา 50 บาท
“ชะลอฟ้อง” ลูกหนี้ NPL จากโควิด 19 ในสินเชื่อ 4 ประเภท
ขณะเดียวกันสถานการณ์การเมืองภายในประเทศมีความเสี่ยงเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง หลังจากการเลือกตั้งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้หุ้นขนาดใหญ่หลายตัวยังไม่เคลื่อนไหวมาก เนื่องจากมีความเกี่ยวพันกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่หุ้นที่สภาพคล่องไม่ได้สูง อย่าง DELTA, INTOUCH, MACRO ยังเคลื่อนไหวได้ดี รวมถึงหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กหลายตัวเริ่มเคลื่อนไหวมากขึ้น ดังนั้นภาพวันนี้จึงมีหลายอัพไซด์ให้ตลาดฯ รอติดตาม
ด้านตลาดภูมิภาคเอเชีย คาดว่าการที่ค่าเงินสหรัฐฯที่อ่อนค่าลง ยังเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางเงินทุนที่ไหลเข้าตลาดฝั่งเอเชีย ประกอบกับ ที่ผ่านมาตลาดเอเชียได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แรงกว่าสหรัฐฯและยุโรป ทำให้ Underperform ในช่วงที่ผ่านมา จึงกลายเป็นข้อดี เพราะตลาดสหรัฐฯและยุโรปมี Fund Flow เข้าไปอยู่มากแล้ว เลยทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มพยายามหาตลาดใหม่ที่ยังมีโอกาสรองรับเม็ดเงินอยู่
สถานการณ์อื่นๆ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (2 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,443.82 จุด เพิ่มขึ้น 131.29 จุด (+0.37%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,536.95 จุด เพิ่มขึ้น 12.86 จุด (+0.28%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,331.18 จุด เพิ่มขึ้น 21.80 จุด (+0.14%)
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,602.74 จุด เพิ่มขึ้น 5.70 จุด (+0.16%), ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,626.48 จุด เพิ่มขึ้น 82.97 จุด (+0.29%) และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,022.67 จุด ลดลง 67.76 จุด (-0.26%)
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (2 ก.ย.) ปิด 73.03 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์ หรือ 2% ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 ก.ย.) อยู่ที่ 4.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิดเช้านี้ 32.42 แข็งค่าตามทิศทางตลาดโลกหลังดออลาร์อ่อนลง