รูปแบบที่มิจฉาชีพนำมาใช้เพื่อหลอกเอาเงิน หลอกเอาข้อมูลของเรา เปลี่ยนไปไม่ซ้ำ ส่วนใหญ่ทำเป็นขบวนการ เช่น สวมรอยเป็นธนาคาร, โครงการรับสิทธิ์ต่าง ๆ ของรัฐ, SMS ได้รับสิทธิ์กู้เงินออนไลน์, ได้ส่วนลด โดยจะส่งข้อความ อีเมลล์ หรือแนบลิงก์แท็กมาในเฟซบุ๊ก
หากเรากดเข้าไป แล้วกรอกข้อมูล เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทร เลขบัตรประจำตัวประชาชน และอื่นๆ จะทำให้ข้อมูลสำคัญตกไปอยู่ในมือมิจฉาชีพ ซึ่งอาจจะถูกนำไปแอบอ้างใช้ในทางที่ไม่ดี เช่น แฮกบัญชีออนไลน์ แล้วสวมรอยไปยืมเงิน
เตือนภัย! มิจฉาชีพส่ง “ลิงก์ช่วยกดโหวต” แฮกไลน์-เฟซบุ๊ก หลอกโอนเงินคนรู้จัก
มือมืดแฮกไอดีไลน์สวมรอยพี่สาวหลอกโอนเงิน 60,000 บาท
โดยเฉพาะช่วงนี้ มีข่าวรายวัน กับแอปกู้เงินปลอม ที่ได้เงินง่าย ตอบโจทย์คนที่ขาดสภาพคล่องทางการเงินช่วงโควิด-19 แต่เมื่อกดไปแล้ว กรอกข้อมูลไปแล้ว นอกจากเงินต้น ยังจะต้องจ่ายดอกแพงมหาโหด มิหนำซ้ำยังมีการกดดันคนรอบตัว และโพสต์ประจานทวงนี้
วิธีป้องกันมิจฉาชีพที่แอบแฝงมาในแอพเงินกู้
1. ไม่ควรยินยอมให้แอพพลิเคชั่นเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวในโทรศัพท์
2. หลีกเลี่ยงการกดลิงก์ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาโดยเด็ดขาด
3. ควรอ่านรายละเอียดข้อตกลงและเงื่อนไขในการทำสัญญาให้ดีก่อนทุกครั้ง
4. หากการกู้ยืมใด ที่ต้องโอนค่ามัดจำ ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็นการหลอกลวง
แต่หากเกิดความเสียหายไปแล้ว เช่น โอนเงินให้มิจฉาชีพไปแล้ว ควรแจ้งความสถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ
หากต้องการคำแนะนำหรือแจ้งเบาะแสสามารถติดต่อศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือผ่านเว็บไซต์ www.pct.police.go.th หรือโทร.1599
ที่มา กองปราบปราม, ธนาคารแห่งประเทศไทย